ประธานบริหารสูงสุด บริษัท แอลเอ็มจี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติกรมธรรม์ ประกันภัย อุบัติเหตุส่วนบุคคล (พีเอ) แบบใหม่ กับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) มีจุดเด่นตรงความคุ้มครองสูงจ่ายสินไหมทดแทนให้ 2 เท่า กรณีเกิดอุบัติเหตุในช่วงวันหยุดเทศกาล อาทิ ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ เป็นต้น ซึ่งยังไม่มีบริษัทใดทำ หากคปภ. อนุมัติจะรีบนำออกขายเร็วที่สุดก่อนสงกรานต์นี้

“เราจะระบุในตัวกรมธรรม์เลยว่า มีเทศกาลไหนบ้างที่เราจะจ่ายชดเชยให้ 2 เท่า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา หากไม่ใช่เกิดเหตุช่วงเทศกาลก็คุ้มครองปกติ ที่เราหันมาเล่นตัวนี้เพราะตลาด ประกันภัย พีเอ โตถึง 20% ประชาชนมองเห็นความสำคัญของการรักษาพยาบาลและสุขภาพ เวลาเกิดอุบัติเหตุ แม้จะมีความเสี่ยงจากค่ารักษาพยาบาลจะปรับขึ้น แต่ ประกันภัย พีเอ จำกัดวงเงินคุ้มครองแค่จำนวนหนึ่ง หากเบิกเต็มวงเงินแล้วก็เบิกอีกไม่ได้ วงเงินคุ้มครองสูงสุดประมาณ 2 ล้านบาท ส่วนเบี้ย ประกันภัย ยังบอกไม่ได้ เพราะอยู่ระหว่างยื่นขอคปภ.”

ปีที่ผ่านมาบริษัทมีเบี้ย ประกันภัย รับรวม 5,300 ล้านบาท เติบโต 10% เทียบกับปี 2554 โดยมีกำไรมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากการผสมผสานงานระหว่าง ประกันภัยรถยนต์ และ ประกันภัย ไม่ใช่รถยนต์ (นอน มอเตอร์) ดีขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนนอน มอเตอร์จาก 12% เป็น 15% ขณะที่ ประกันภัยรถยนต์ สัดส่วนลดลงจาก 88% เหลือ 85% ทำกำไรได้ดีขึ้นเช่นกัน เนื่องจากการคัดเลือกลูกค้าที่มีคุณภาพ ทำให้อัตราสินไหมทดแทน (Loss ratio) ต่ำกว่า 60%

“เราเน้นรถยนต์ขนาดกลางไปถึงขนาดใหญ่ รถกลุ่มไฮเอนด์ที่มีราคาสูงๆ อย่างเบนซ์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราความเสียหายไม่เยอะ เบี้ย ประกันภัยรถยนต์ สูงประมาณ 1-1.5% ของทุน ประกันภัยรถยนต์ รถยนต์กลุ่มนี้เรายังมีสัดส่วนไม่เยอะ แต่ถ้าเทียบในตลาดรวมของรถยนต์กลุ่มนี้ เราน่าจะติดท็อปไฟว์ของตลาด”

สำหรับในปีนี้กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จะขยายทั้ง ประกันภัยรถยนต์ และนอน มอเตอร์ ซึ่งภายใน 5 ปีมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนเบี้ย ประกันภัย นอน มอเตอร์จาก 15% เป็น 30% โดย ประกันภัยรถยนต์ นอกจากมุ่งขยายรถยนต์ ขนาดกลางและขนาดใหญ่แล้ว จะเริ่มเข้าไปรับ ประกันภัยรถยนต์ ขนาดเล็กในโครงการรถยนต์คันแรก เพราะมีโอกาสคัดเลือกลูกค้ามากขึ้น เทียบกับปีที่ผ่านมาที่ไม่ได้เข้าไปบุกตลาดกลุ่มนี้มาก เพราะการแข่งขันรุนแรง

ทั้งนี้บริษัทเพิ่งเปิดบริการใหม่ บริการรถยนต์ช่วยเหลือฉุกเฉิน LMG-Roadside Service โดยทุ่มงบประมาณ 30 ล้านบาท จัดซื้อรถยนต์ใหม่ พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน 35 คัน บริการฟรีให้กับลูกค้าตามสาขาต่างๆ กว่า 30 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงสาขากาญจนบุรีและลำปาง ซึ่งเป็นสาขาใหม่ที่จะเปิดในปีนี้ โดยให้บริการช่วยเหลือรถยนต์เสีย ฉุกเฉินกรณีต่างๆ อาทิ ยางแตก รถยนต์สตาร์ตไม่ติด น้ำมันหมด หรือไม่สามารถขับรถได้โดยบริการตลอด 24 ชั่วโมง

“จุดแข็งของโครงการนี้คือ เราบริหารเอง เทรนพนักงานขึ้นมาทำ ไม่ได้จ้างเอาต์ซอร์สเหมือนที่อื่น ถือเป็นรายแรกของวงการ ประกันภัยรถยนต์ แค่ลูกค้าโทรมาที่คอลเซ็นเตอร์ 1790 จะมีเจ้าหน้าที่ออกไปดูแลถึงที่เกิดเหตุ การลงทุนตัวนี้เป็นการลงทุนระยาว เพื่อเพิ่มบริการให้กับลูกค้าให้เกิดความประทับใจแบรนด์ แอลเอ็มจี เชื่อว่าถ้าบริการดีจะได้ลูกค้ากลับมา เรามองลูกค้ากลุ่มที่ไม่เกิดอุบัติเหตุเลย มีอยู่ประมาณ 50% ควรจะได้อะไรจากเรา บริการนี้เราไม่ได้คิดเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ เพิ่ม”

กล่าวว่า แม้ต้นทุน ประกันภัยรถยนต์ จะเพิ่มขึ้นทั้งจากค่าแรง ค่าอะไหล่ และค่ารักษาพยาบาล แต่บริษัทไม่มีนโยบายปรับค่าเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ เพิ่มขึ้น ใช้วิธีลดต้นทุนภายใน และนำเทคโนโลยีมาใช้แทนให้มากขึ้น

ส่วนการควบรวมหรือซื้อกิจการบริษัท ประกันภัย อื่น กล่าวว่า เป็นนโยบายของบริษัท มองอยู่ทุกปี ซึ่งปีนี้มีโอกาสปิดดีล โดยบริษัท ประกันภัย ที่ต้องการเป็นไซส์กลาง มีช่องทางขายผ่านธนาคาร ตัวแทน ประกันภัย หรือไดเรกต์ ซึ่งบริษัทยังขาดอยู่

ที่มา : สยามธุรกิจ