ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

‘เทเวศ’ ชู ประกันภัยรถยนต์ บุกรายย่อย หัวหอกทะลวงเป้า 4,000 ล้านบาท

การเติบโตมาจาก ประกันภัย รายบุคคล โดยเฉพาะ ประกันภัยรถยนต์ และ ประกันภัย อุบัติเหตุส่วนบุคคล (พีเอ) ตั้งเป้าหมายเติบโตอย่างละ 20%

‘เทเวศ’ ชู ประกันภัยรถยนต์ บุกรายย่อย หัวหอกทะลวงเป้า 4,000 ล้านบาท

มกราคม
30

ค่ายประกันวินาศภัยหลายแห่งเริ่มเปิดแผนงานปี 2556 โดยเป้าหมายยังคงเน้นขยายตลาดรายย่อย โดยเฉพาะ ประกันภัยรถยนต์ ซึ่ง “เทเวศประกันภัย” ก็เช่นกัน โดยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2556 บริษัทตั้งเป้าหมายเบี้ยรับรวม 4,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10% ต่ำกว่าตลาด เนื่องจากมีแนวโน้มปีหน้า เบี้ย ประกันภัย ทรัพย์สิน กรมธรรม์ ประกันภัย ความเสี่ยงภัยทุกชนิด (IAR) จะปรับตัวลดลง ทำให้เบี้ยส่วนนี้หายไป โดยบริษัทรับ ประกันภัย โรงงานอุตสาหกรรมเยอะ มีสัดส่วนถึง 60%

บุก ประกันภัยรถยนต์ ขยายรายย่อย “ชั้น 1” คุ้มครองก่อการร้าย

ทั้งนี้ การเติบโต 10% จะมาจาก ประกันภัย รายบุคคล โดยเฉพาะ ประกันภัยรถยนต์ และ ประกันภัย อุบัติเหตุส่วนบุคคล (พีเอ) ตั้งเป้าหมายเติบโตอย่างละ 20% โดยเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ปีหน้าตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1,200 ล้านบาท และ ประกันภัย พีเอ 380 ล้านบาท จาก 300 ล้านบาทในปีนี้ โดยพีเอปีนี้โตมากประมาณ 50% ส่วนเบี้ยประกันอัคคีภัยตั้งไว้ 250 ล้านบาท และที่เหลือเป็น ประกันภัย ทางทะเลและขนส่ง (มารีน) 70 ล้านบาท

“เบี้ย ประกันภัย ของเราในตอนนี้ มาจากลูกค้ารายใหญ่ (คอมเมอร์เชียล ไลน์) 50% และรายย่อย 50% ปีหน้าจะขยายรายย่อยเพิ่มขึ้นเป็น 55% นอกจากนี้ยังมี ประกันภัย สุขภาพ ประกันภัย บ้านอยู่อาศัย อย่างรถยนต์จะเน้นขนาด 1600-1800 ซีซี ไม่เล่นกลุ่ม 5 พวกซิตี้คาร์ ซึ่งค่ายรถยนต์จะแถม ประกันภัยรถยนต์ มาให้พร้อมซื้อรถยนต์ แต่เราไม่มีดีลเลอร์ส่งงานให้ ส่วนใหญ่แหล่งงานเป็นรถปีที่สองขึ้นไป อีกทั้งไม่ชำนาญรถกลุ่มนี้ ที่สำคัญต้องการคุม ประกันภัยรถยนต์ ไม่อยากเติบโตเร็วเกินไป เพราะอัตราค่าใช้จ่ายรวม (คอมไบน์ เรโช) สูงอยู่แล้ว ประมาณ 96-97% ถ้าโตมากไม่มีกำไร โดยประมาณ 70% เป็น ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1”

นอกจากนี้ ได้เพิ่มการสำรวจภัยโดยใช้พนักงานของบริษัท จากเดิม 30% เป็น 60% และใช้ระบบ E-Billing ในการวางบิลจากอู่ เพิ่มความรวดเร็วในการประสานงานกับอู่ และลดปริมาณเอกสาร ปีหน้าจะขยายครอบคลุมทั่วประเทศ ยิ่งกว่านั้นยังเพิ่มความคุ้มครอง ประกันภัยรถยนต์รถยนต์ ชั้น 1 รวมภัยก่อการร้ายในทุกกรมธรรม์ เวลาเกิดเหตุไม่ต้องมาตีความเงื่อนไขในกรมธรรม์ เป็นจลาจล หรือก่อการร้าย กรมธรรม์คุ้มครองทันทีทุกพื้นที่ ไม่ยกเว้นในพื้นที่เสี่ยง เช่น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยวงเงินคุ้มครองเท่ามูลค่า รถยนต์ ลูกค้าจ่ายเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ เพิ่มจากเดิมหลักร้อยบาทเท่านั้น

สำหรับผลประกอบการ 9 เดือน น่าพอใจมีเบี้ย ประกันภัย รับรวม 2,765 ล้านบาท เติบโต 27% โดยคาดว่าสิ้นปี 2555 น่าจะมีเบี้ย ประกันภัย รับรวม 3,600 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ตอนต้นปี คือ 3,500 ล้านบาท เติบโต 16% เทียบกับปีที่ผ่านมา ที่มีเบี้ย ประกันภัย รับรวม 3,100 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือ 30% เป็นระดับที่เหมาะสม ในแง่กำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 99 ล้านบาท ทั้งที่มีต้นทุนแพงขึ้นจากการซื้อ ประกันภัย ต่อเพิ่มเป็น 100 ล้านบาท โดยมีกำไรจากการรับ ประกันภัย ซึ่งอัตราสินไหมทดแทน (Loss Ratio) เฉลี่ย 50-60% คอมไบน์ เรโช อยู่ที่ประมาณ 97-98% และยังมีกำไรจากการลงทุน ที่เน้นนโยบายลงทุนแบบอนุรักษนิยม (คอนเซอร์เวทีฟ) ไม่ลงทุนในตลาดหุ้น เน้นลงทุนในตราสารหนี้ และเงินฝาก แม้ผลตอบแทนน้อยแค่ 3-4% แต่มีความแน่นอน โดยผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 3.5-4% ได้ตามเป้า พอร์ตลงทุนรวม 2,800 ล้านบาท เป็นพันธบัตร 65% เงินฝาก 35%

เร่งเคลียร์เคลมน้ำท่วม-เซ็นทรัลเวิลด์ ดันเงินกองทุนแกร่งทะลุ 300%

ปีนี้คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบหลายปี เป็นผลมาจากการคำนวณทางระบบบัญชีแบบใหม่ แต่ปีหน้าคาดว่าจะมีกำไรขั้นต้น 520 ล้านบาท กำไรสุทธิ 100 กว่าล้านบาท โดยเมื่อตอนต้นปีบริษัทเพิ่มทุนเป็น 500 ล้านบาท จากเดิม 300 ล้านบาท ชำระเต็มจำนวน โดยอัตราความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR Ratio) อยู่ที่ 227% หากปีนี้จ่ายน้ำท่วมได้อีก 1,000 ล้านบาท จะขยับขึ้นอีก ซึ่งตามเกณฑ์ของคปภ. กลุ่มบริษัทผู้นำฐานะการเงินแข็งแกร่งจะต้องมี CAR Ratio 300%

“CAR Ratio ของบริษัทจะขยับขึ้นอยู่กับ 2 เคส คือ สินไหมน้ำท่วมที่ยังค้างจ่ายอยู่ และคดีเซ็นทรัลเวิลด์ที่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย วงเงินประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อกลางปี 2553 หากเคลียร์ทั้ง 2 เคสนี้จบ ไม่ต้องตั้งสำรอง ไม่ถูกชาร์จเงินกองทุนเพิ่ม (Risk Charge) จะทำให้ CAR Ratio ทะลุ 300% คาดว่าน้ำท่วมน่าจะจบได้เร็วกว่า จะทำให้ CAR Ratio ขยับขึ้นอีกพอสมควร ขณะที่คดีเซ็นทรัลเวิลด์ ทางศาลชั้นต้นจะมีคำตัดสินในไตรมาส 2 จะมีกระบวนการยื่นอุทธรณ์อีก ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 7 ปี”

ทั้งนี้ ค่าเสียหายจากน้ำท่วมเพิ่งโผล่เพิ่มมาอีก 60 ล้านบาทในปีนี้ เป็นสินไหมทดแทนจากการรับ ประกันภัย ต่อมาจากบริษัท ประกันภัย อื่น ที่เพิ่งแจ้งเข้ามา เมื่อรวมแล้วบริษัทมีค่าสินไหมทดแทนทั้งหมด จากน้ำท่วมประมาณ 9,000 ล้านบาท เป็นค่าสินไหมที่ต้องจ่ายเอง ทั้งรับ ประกันภัย เองและรับ ประกันภัย ต่อจากบริษัทอื่น รวมประมาณ 400 ล้านบาท ขณะนี้จ่ายไปแล้ว 4,500 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีจะจ่ายเพิ่มอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท รวมเป็น 5,500 ล้านบาท อีก 3,500 ล้านบาท น่าจะจบกลางปี หรือปลายปีหน้า

“โพสิชั่นของบริษัท อยากให้ CAR Ratio เกิน 300% เพราะแสดงถึงความมั่นคงของบริษัท อีกส่วนหนึ่งเป็นการแลกงานกัน ระหว่างบริษัท ประกันภัย ด้วยกันเอง เพราะถ้า ประกันภัย ต่อไปให้กับบริษัท ประกันภัย ที่มี CAR Ratio ต่ำ บริษัทจะเจอริสก์ ชาร์จสูง เพราะมีความเสี่ยงหากเกิดเคลม จะสามารถจ่ายสินไหมได้หรือไม่”

ที่มา : สยามธุรกิจ