สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) มีคำสั่งให้บริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด หยุดรับประกันชั่วคราวมีผลตั้งแต่ 20 กรกฎาคม 2555 เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นอีกกรณีศึกษา เพราะถูกคำสั่งหยุดรับประกันชั่วคราวโดยที่บริษัทไม่มีปัญหาเงินกองทุนขาด
ผู้ช่วยเลขาธิการ สายพัฒนาและวิเคราะห์ระบบการตรวจสอบ สำนักงานคปภ. ให้ความเห็นว่า ส่งเสริมประกันภัยเป็นบริษัทประกันภัยรายเดียวที่ถูกคำสั่งหยุดรับประกันชั่วคราว โดยที่เงินกองทุนครบถ้วน เพราะมีการเพิ่มทุนเพื่อรองรับการขยายงานมาตลอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเป็นบริษัทประกันภัยที่เพิ่มทุนบ่อยที่สุดตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา แต่ที่ต้องสั่งให้หยุดรับประกันภัย เพราะมีปัญหาในเรื่องของไม่มีระบบควบคุมการจำหน่าย จ่ายแจกกรมธรรม์ประกันภัยที่ครบถ้วนรัดกุม ไม่มีระบบการสอบยันกรมธรรม์ประกันภัยที่จำหน่าย และเงินค่าเบี้ยประกันภัยให้ถูกต้องตรงกัน มีการรับประกันภัยโดยไม่บันทึกบัญชีหรือบันทึกบัญชีล่าช้า ประกอบกับไม่มีการตรวจสอบการลงบันทึกบัญชี และสมุดทะเบียนให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย มีการบันทึกบัญชีโดยใช้เกณฑ์เงินสด ซึ่งผู้สอบบัญชีไม่รับรองงบการเงิน ทำให้ไม่สะท้อนฐานะการเงินที่แท้จริง ขาดความน่าเชื่อถือ
“ความผิดทั้งหมดที่กล่าวมา ถือเป็นความผิดร้ายแรงที่ต้องสั่งให้หยุดรับประกันภัยชั่วคราว เพราะหากยังปล่อยให้รับประกันภัยเป็นปกติต่อไปบริษัทมีปัญหาแน่ โดยเฉพาะการขายโดยไม่บันทึกบัญชี เท่ากับบริษัทขาดรายได้ ซึ่งในแง่ลูกค้าอาจไม่กระทบแต่บริษัทกระทบแน่ เมื่อเงินไม่เข้าบริษัท และเมื่อไม่มีระบบควบคุมการขาย ก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปตรวจสอบงบการเงินได้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นในงบการเงินมา 2 ปีแล้ว”
ในส่วนของเงินกองทุนและสภาพคล่องของส่งเสริมประกันภัยไม่มีปัญหา ซึ่งล่าสุดเดือนมิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา บริษัทเพิ่มทุนอีก 50 ล้านบาท จากเดิมมีอยู่ 1,100 ล้านบาท เป็น 1,150 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเพิ่มทุนมาตลอดตั้งแต่ต้นปี 2553 หลังจากที่เจอปัญหาเงินกองทุนขาดครั้งหนึ่ง จึงได้เพิ่มทุนเป็นบวกมาตลอดนับแต่นั้น
“คปภ.ให้เวลาส่งเสริมประกันภัย 6 เดือน หรือภายในมกราคม 2556 ในการแก้ไขปัญหา เหตุที่ให้เวลานานเป็นเพราะการแก้ไขระบบงาน และทำงบการเงินให้ถูกต้องเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา เมื่อเทียบกับกรณีเงินกองทุนขาดถือเป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไขมากกว่า”
อย่างไรก็ดียืนยันว่า ไม่มีบริษัทประกันภัยรายใดในเวลานี้ที่สุ่มเสี่ยง หรือเข้าข่ายทำผิดเหมือนกับกรณีส่งเสริมประกันภัย แต่คปภ. ก็ดูแลใกล้ชิดทุกบริษัท ทั้งนี้ คปภ.ตรวจพบว่าส่งเสริมประกันภั ยมีการดำเนินการในลักษณะที่อาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัย หรือประชาชน โดยไม่มีระบบควบคุมการจำหน่าย จ่ายแจกกรมธรรม์ประกันภัยที่ครบถ้วน รัดกุม ไม่มีระบบการสอบยันกรมธรรม์ประกันภัยที่จำหน่าย และเงินค่าเบี้ยประกันภัยให้ถูกต้องตรงกัน มีการรับประกันภัยโดยไม่บันทึกบัญชี หรือบันทึกบัญชีล่าช้า ประ กอบกับไม่มีการตรวจสอบการลงบันทึกบัญชี และสมุดทะเบียนให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย มีการบันทึกบัญชีโดยใช้เกณฑ์เงินสด ซึ่งผู้สอบบัญชีไม่รับรองงบการเงิน ทำให้ไม่สะท้อนฐานะการเงินที่แท้จริง ขาดความน่าเชื่อถือ
ดังนั้น นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ. ประกันวินาศภัย พ.ศ.2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 สั่งให้ส่งเสริมประกันภัย หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2555 เป็นต้นไป และบริษัทต้องเร่งดำเนินการจัดให้มีระบบควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพ มีการควบคุมการจัดส่งกรมธรรม์ประกันภัยไปสู่สาขา และตัวแทน/นายหน้าประกันภัย เร่งตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัย ที่ขายกับจำนวนเบี้ยประกันภัยที่ได้รับ รวมถึงการบันทึกบัญชีและสมุดทะเบียนให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย
ที่มา : สยามธุรกิจ