ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

ประกันภัยมาเลย์-สิงคโปร์จ้องไทย

ตลาดประกันไทยเนื้อหอม หวั่นเปิดเสรีในปี2563 ถูกมาเลย์-สิงคโปร์ชุบมือเปิบกวาดลูกค้า เร่งแก้ไขกฎหมายรองรับ

ประกันภัยมาเลย์-สิงคโปร์จ้องไทย

มิถุนายน
21

นายกสมาคมประกันวินาศภัย กล่าวถึงการเปิดเสรีภาคธุรกิจประกันภัย ภายใต้การเปิดเสรีเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน หรือ เออีซี ในปี2558 ว่าทางสมาคมได้ประเมินแล้วว่า หากเปิดเสรีด้านประกันภัยขึ้นจริงในอีก 3 ปีข้างหน้า ธุรกิจประกันภัยไทยจะต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอน แต่การที่ได้ขยายเวลาการเปิดเสรีออกไปในปี 2563 น่าจะทำให้มีเวลาปรับตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตามที่ประเมินว่าไทยจะเสียเปรียบนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากการขาดประสิทธิภาพหากเป็นเพราะหลายประเทศที่มีจุดแข็งด้านประกันภัย โดยเฉพาะมาเลเซียและสิงคโปร์จะเข้ามาเจาะตลาดในประเทศไทยแทน

ทั้งนี้หากเปรียบเทียบตลาดของไทยกับหลายประเทศ ไทยถือเป็นตลาดที่ต่างชาติต้องการ เนื่องจากยังมีโอกาสเติบโต ดูจากอัตราการถือครองกรมธรรม์ประกันภัยต่อหัวยังต่ำ คือ 20% ต้นๆ รวมถึงไทยยังมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีในอัตราที่สูงมาก คือ มีอัตราการเติบโตประกันภัย 15% และประกันชีวิตไม่ต่ำกว่า 10 %

นายกสมาคมประกันวินาศภัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางสมาคมประกันวินาศภัยอยู่ระหว่างตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาความเป็นไปได้ ในการปรับปรุงเรื่องกฎระเบียบและกฎหมายด้านการประกันภัยของไทย เช่นเดียวกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่มองเห็นภาพการทำธุรกิจประกันภัยของไทยในอนาคตว่า จำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้น และสิ่งที่จะมาตอบโจทย์ได้คือ การปรับข้อกฎหมายให้มีความทันสมัย ขณะเดียวกันต้องพร้อมเปิดกว้างและต้องปกป้องบริษัทประกันภัยภายในให้สามารถแข่งขันได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ระเบียบการรายงานผลข้อมูลเชิงนิติบุคคล จะมีผลต่อต้นทุนของบริษัทประกันภัยมากกว่า ดังนั้นหากเปรียบเทียบแล้วต้นทุนของบริษัทประกันภัยของไทยก็ยังถือว่าสูงกว่าหลายประเทศ

ระยะเวลาจากนี้ถึงปี 2558-2563 ทิศทางของบริษัทประกันภัยในไทยอาจมีความพร้อมมากกว่านี้ แต่คงไม่สามารถประเมินได้ว่าภาพที่ชัดเจนนั้นจะออกมาในรูปใด ถามว่าประกันไทยพร้อมหรือยังกับการถูกต่างชาติเข้ามารุกทางธุรกิจ คงตอบได้ว่าตอนนี้ยังไม่พร้อม ส่วนบริษัทประกันภัยที่มีสัดส่วนการตลาด หรือที่เราได้ยินชื่อคุ้นหูเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่สามารถต่อสู้แข่งขัน ซึ่งเชื้อว่าเมื่อเปิดเสรี AEC เต็มตัวแล้ว ธุรกิจประกันภัยของไทยจะแข่งขันกันอย่างดุเดือด โอกาสการเติบโตทั้งประกันชีวิตและวินาศภัย จะมีอัตราการเติบโตต่อปีไม่ต่ำกว่า 20%

ด้านข่าวจากธุรกิจประกันภัยรายใหญ่ กล่าวถึงความพร้อมรองรับการเปิด AECว่า ขณะนี้บริษัทประกันภัยขนาดใหญ่มีความพร้อมแล้ว แต่บริษัทเล็กยังขาดความพร้อมเรื่องบุคคลให้มีความเป็นมืออาชีพ พัฒนาระบบให้รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ลดต้นทุนด้านการบริหารจัดการหลังบ้าน เพราะไทยต้นทุนสูงกว่าประเทศในอาเซียนถึง 40% ดังนั้นหากต้องการให้บริษัทอยู่รอดได้ คือต้องเร่งปรับข้อจำกัดที่กล่าวให้ลดลงมาไม่เกิน 20% ก่อนในช่วงต้นก่อนเปิด AEC เต็มตัว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้บริโภคจะได้อะไรจากการเปิดเสรี AEC คือการนำเสนอสินค้าที่หลากหลาย แต่ละบริษัทประกันภัยต้องแข่งขันด้านบริการ และมีแนวโน้มที่ราคาจะถูกลง เพราะหลายบริษัทลดต้นทุน ผลดีจึงตกอยู่ที่ผู้บริโภค แต่ทุกสิ่งใช้ว่าจะดีไปหมด สิ่งที่ต้องระวังคือ การตรวจสอบการเข้ามาทำธุรกิจ จุดนี้เป็นหน้าที่ของ คปภ. ที่ต้องทำงานอย่างใกล้ชิด ป้องกันไม่ให้เกิดการถอนทุน รวมถึงดูแลไม่ให้ผู้ที่ซื้อประกันภัยถูกเอาเปรียบ

ด้านเลขาธิการ คปภ. กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้ธุรกิจประกันภัยไทยในภาพรวม ยังไม่มีความพร้อมในการรองรับเออีซี เพราะภาคประกันภัยของไทยต้องสร้างตัวเองให้มีความเข้มแข็งก่อนที่จะไปแข่งขันกับต่างประเทศ ซึ่งคงต้องมีการเตรียมพร้อมในเรื่องนี้กันอีกมาก ต้องปรับตัวให้ทันก่อนปี 2563 สิ่งแรกที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน คือ เปลี่ยนแนวคิดการทำธุรกิจให้แตกต่าง ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอต้องแปลกใหม่ เข้ากับตลาดและตรงตามความต้องการ

ล่าสุดทางคปภ. ได้แก้ไขหลักเกณฑ์สัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติในบริษัทประกันภัย ให้สามารถถือหุ้นเพิ่มขึ้นไม่เกิน 49% จะต้องขออนุมัติบอร์ด คปภ. และถ้าเกิน 49% ขึ้นไป ต้องขออนุมัติจากกระทรวงการคลัง

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ