สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า กรณีของบริษัท ฟินันซ่าประกันชีวิต จำกัด ขณะนี้ยังรอการพิจารณาจากผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่เป็นต่างชาติอยู่ โดยคปภ.ประมาณว่าภายในสิ้นปีนี้ทุกอย่างต้องจบ เพราะได้ให้เวลามากว่า 2 ปีแล้ว อย่างไรก็ดีแม้จะไม่มีการรับประกันภัยรายใหม่ แต่ยังมีเบี้ยต่ออายุเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และฐานะการเงินโดยรวมมีรายได้มากกว่ารายจ่ายเพียงแต่จำนวนลูกค้าจะลดลง เพราะไม่มีลูกค้ารายใหม่เข้ามา

“การเข้าไปควบคุมฟินันซ่าใช้เวลายืดยาวไม่ได้ต้องหาผู้ร่วมทุน หากหาไม่ได้บอร์ดควบคุมก็ต้องตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะจบเมื่อไหร่ แต่ภายในสิ้นปีนี้ทุกอย่างต้องจบ และ ยืนยันว่าผู้ถือกรมธรรม์ไม่เดือดร้อน โดยกรณีของฟินันซ่าประกันชีวิตได้มีมติให้เพิ่มทุน 1,500 ล้านบาท ซึ่งตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เสนอขายหุ้นต่ำกว่าราคาพาร์ไม่ได้หากได้กำหนดราคาพาร์เอาไว้ที่ 100 บาทต่อหุ้น ดังนั้นผู้ที่เข้ามาซื้อก็ต้องซื้อในราคาขั้นต่ำที่ 100 บาทต่อหุ้น แต่หากขายได้ในราคาที่สูงกว่า 100 บาทต่อหุ้นก็ถือว่าโอเค และต้องซื้อทั้งบริษัทไม่ใช่ซื้อเฉพาะหนี้ดี”

ด้านผู้จัดการและกรรมการควบคุมบริษัท ฟินันซ่าประกันชีวิต จำกัด เปิดว่า ฟินันซ่ายังได้รับความสนใจจากกลุ่มทุนต่างๆ โดยกลุ่มทุนจากเม็กซิโกยังอยู่ในกระบวนการ และล่าสุดยังมีกลุ่มทุนจากเบอร์มิวด้า ซึ่งเป็นกลุ่มทุนเดิมที่เคยเข้ามาศึกษาข้อมูลแล้วแต่ก็ได้ถอนตัวออกไป กลับเข้ามาแจ้งความจำนงสนใจซื้อใหม่อีกครั้งด้วย

“กลุ่มเบอร์มิวด้า ตอนนั้นร่วมกับลอยด์จากยุโรป เข้ามาศึกษาข้อมูลเรา แต่ติดในเรื่องของหนี้เสีย (NPL) ที่เกิดจากการกู้ยืมโดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทำให้เขาถอนตัวไป มาคราวนี้เขาร่วมกับกองทุน ต่างประเทศ 2-3 กองทุนเข้ามาติดต่อใหม่ ซึ่งเราก็บอกเขาแล้วว่าในส่วนของ NPL นั้นไม่มีปัญหาแล้ว เราได้ผู้รับซื้อหนี้ส่วนนี้แล้ว”

อย่างไรก็ดีตนยังไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับกองทุนที่ทางกลุ่มเบอร์มิวด้าเสนอมา ดังนั้นจึงยังบอกความชัดเจนตอนนี้ไม่ได้ต้องขอเวลาศึกษาก่อน ส่วนกลุ่มทุนจากเม็กซิโกที่เข้ามาก่อนหน้านี้ ขณะนี้ก็ยังอยู่ในกระบวนการของเขา แต่ไม่ได้แจ้งความคืบหน้าให้ทางบอร์ดควบคุมฯ ทราบเท่านั้น

“ทางคปภ.ก็ถามความคืบหน้าเรามาเรื่อยๆ เราก็คงจะเร่งรัดแต่ยังไม่ได้มีการคุยกันถึงเงื่อนเวลาแน่นอนว่าจะต้องจบเมื่อใด ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เลขาธิการคปภ.ให้ข่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งทางเราเองถึงตอนนี้ก็จะต้องทำข้อมูลที่เป็นสากลมากขึ้น ในเรื่องของเอกสารต่างๆ ต้องขอเวลาอีกระยะจึงจะให้รายละเอียดความคืบหน้าได้มากกว่านี้”

ส่วนบริษัท ฟีนิกซ์ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด ถูกคำสั่งให้หยุดรับประกันภัยชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 เนื่องจากดำรงเงินกองทุนไม่ครบถ้วน ตามที่กฎหมายกำหนด โดยให้ดำเนินการปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายใน 30 เมษายน 2555 แต่ก็ยังไม่สามารถปรับปรุงให้แล้วเสร็จได้ คปภ.จึงขยายระยะเวลาให้อีก 30 วัน หรือต้องแล้วเสร็จภายใน 30 มิถุนายน 2555 นี้

กล่าวว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80-90% คาดว่าภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้น่าจะจบได้ ซึ่งกระบวนการที่ คปภ.และกรรมการควบคุมให้บริษัทดำเนินการก็ได้ดำเนินการมาเกือบหมดแล้ว โดยส่วนของการเพิ่มทุนบริษัทก็ได้ทำการลดทุนจาก 725 ล้านบาทเหลือ 350 ล้านบาท และได้ทำการเพิ่มทุนอีก 100 ล้านบาท เพื่อให้มีทุนจดทะเบียนใหม่เป็น 450 ล้านบาท และการเพิ่มทุน 100 ล้านบาทก็ได้ใส่เข้ามาแล้ว

ในส่วนค่าสินไหมทดแทนประกันภัย บริษัทก็ได้ประกาศผ่านหนังสือพิมพ์ให้เจ้าหนี้มาแสดงตนและได้จัดการไปแล้ว โดยมีเจ้าหนี้อยู่ประมาณ 100 ราย มูลค่าสินไหมทดแทนประกันภัยประมาณ 10 ล้านบาท เช่นเดียวกับเรื่องงบการเงินที่ยังไม่ได้ส่ง ก็ได้นำส่งมาให้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงกระบวนการจัดระบบภายในบริษัทก็ได้ดำเนินการจัดทำเป็นคู่มือมาให้ คปภ.พิจารณา แล้วเช่นกัน

“ฟีนิกซ์ประกันภัยตอนนี้สรุปว่าทุกอย่างเดินหน้ามาได้เกือบครบแล้ว เหลือเพียงกระบวนการเพิ่มทุนอย่างเดียว หลังเขาใส่เงินใหม่เข้ามา 100 ล้านบาท ซึ่งหลังบริษัทจัดการทุกอย่าง คาดว่าเงินกองทุน และฐานะทางการเงินของฟีนิกซ์ประกันภัยน่าจะเป็นบวกได้ และหากแก้ไขปัญหาได้เสร็จทันเสนอบอร์ดเดือนนี้ ก็จะสามารถนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อทำการปลดล็อก ให้สามารถกลับมารับประกันภัยได้ตามปกติ”

ที่มา : สยามธุรกิจ