ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

ประกันภัยเครือแบงก์/ค่ายฝรั่งเพิ่มทุน

ส่วนใหญ่เป็นผลกระทบมาจากน้ำท่วมหนักปีที่ผ่านมา มีภาระจ่ายค่าสินไหมประกันภัยมาก การตั้งสำรองเงินกองทุนประกันภัยกระทบไปด้วย

ประกันภัยเครือแบงก์/ค่ายฝรั่งเพิ่มทุน

พฤษภาคม
28

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รายงานข้อมูลการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทประกันภัย ในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน 2555 ระบุมีบริษัทประกันภัยแจ้งเพิ่มทุนก้อนใหม่เข้ามาจำนวนหนึ่งรายที่น่าสนใจคือ บริษัท ศรีอยุธยาเจนเนอรัล ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 600 ล้านบาท จากเดิมมีอยู่ 1,200 ล้านบาท รวมเป็น 1,800 ล้านบาท ชำระเต็มจำนวน

รายที่สองคือบริษัท อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันภัย เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 250 ล้านบาทจากเดิมมีอยู่ 300 ล้านบาทรวมเป็น 550 ล้านบาท โดยเงินเพิ่มทุนของใหม่ชำระเต็มจำนวนแล้ว รายที่สามคือ บริษัท ไทยพาณิชย์สามัคคี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หลังจากก่อนหน้านี้ได้ลดทุนจดทะเบียนลง 7,547,845 บาท จากเดิมมีอยู่ 462,000,000 บาท เหลือ 454,452,155 บาท ล่าสุดได้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 660 ล้านบาทเป็น 1,114,452,155 บาท ชำระเต็มจำนวน

ส่วนอีกรายเป็นบริษัทขนาดเล็กอยู่ลำดับท้ายๆ ของตารางคือบริษัท บริรักษ์ประกันภัย จำกัด หลังจากก่อนหน้านี้ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 40 ล้านบาท จากเดิมมีอยู่ 260 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท โดยเงินเพิ่มทุนก้อนใหม่ทยอยเรียกชำระเข้ามาทีละ 10 ล้านบาท, 5 ล้านบาท,3 ล้านบาทบ้าง ล่าสุดชำระเพิ่มมาอีก 2 ล้านบาท

“การเพิ่มทุนของบริษัทประกันภัยส่วนใหญ่ เป็นผลกระทบมาจากน้ำท่วมหนักในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ต้องมีภาระจ่ายค่าสินไหมมาก มีการตั้งสำรอง ขณะที่เงินกองทุนถูกกระทบไปด้วย นอกจากจะรอเงินสินไหมจากบริษัทรับประกันภัยต่อต่างประเทศ ที่แต่ละบริษัทซื้อสัญญาประกันต่อไว้แล้ว บริษัทประกันภัยเองต้องเตรียมสภาพคล่องของตัวเอง เพื่อจ่ายให้กับผู้เอาประกันภัยด้วย เพราะคปภ. มีเกณฑ์วัดสภาพคล่องอยู่ จึงจำเป็นต้องเพิ่มทุนเข้าอย่างกรณีของศรีอยุธยา เจนเนอรัล”

กรรมการผู้จัดการ ไทยพาณิชย์สามัคคี กล่าวว่า ก่อนเพิ่มทุนบริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุน ที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (CAR Ratio) 334% ณ สิ้นปี 2554 ซึ่งเป็นช่วง ที่คปภ. ผ่อนกฎเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (Risk Based Capital : RBC) หลังเกิดน้ำท่วม หากคปภ. ไม่ผ่อนปรนกฎเกณฑ์ CAR Ratio ของบริษัทจะอยู่ที่ 99% ต่ำกว่า 125% ซึ่งเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำที่คปภ. ใช้กำกับเงินกองทุนบริษัทประกันภัย ซึ่งหลังจากเพิ่มทุนคาดว่า CAR Ratio จะเพิ่มเป็นประมาณ 550%

“550% เป็นระดับที่เราเชื่อว่าจะปลอดภัยไปอีกหลายปี หากไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ระดับนี้รองรับการจ่ายสินไหมน้ำท่วมได้ โดยการเพิ่มทุนรอบใหม่นี้เราขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเก่า ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์ซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของธนาคารขยับเพิ่ม อีกประมาณ 1-2% จาก 58% เป็น 60% เศษ”

สำหรับศรีอยุธยา เจนเนอรัล กรรมการผู้อำนวยการ กล่าวว่า เนื่องมาจากน้ำท่วมปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดผลกระทบและความสูญเสียต่อหลายภาคส่วน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การผลิต ทรัพย์สิน รวมถึงความสูญเสียของผู้เอาประกันภัย ประมาณการความสูญเสียอยู่ที่ระหว่าง 387,500 ล้าน ถึง 434,000 ล้านบาท เป็นยอดที่สูงที่สุดในการทำประกันภัยในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา และสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ทั้งนี้บริษัทมีผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ และขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ และเพื่อให้องค์กรเหล่านั้น สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจต่อได้อย่างเป็นปกติโดยเร็วที่สุด บริษัทจึงมีมาตรการเร่งรัดในการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ให้กับบริษัทเหล่านั้นก่อนเป็นจำนวนมาก และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการกำกับกองทุนตามระดับความเสี่ยงตามที่คปภ.กำหนด เพื่อให้บริษัทมีเงินกองทุนเพียงพอในการรองรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจ รวมถึงสามารถรองรับความเสียหาย ที่อาจสูงกว่าที่บริษัทได้คาดการณ์ไว้ และสามารถปฏิบัติตามพันธสัญญา ที่มีต่อผู้เอาประกันภัยได้อย่างครบถ้วน บริษัทจึงได้มีมติเห็นชอบให้มีการเพิ่มทุนจำนวน 600 ล้านบาท เพื่อให้ความมั่นใจอีกทั้งเป็นการยืนยันและแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีความมั่นคง และมีความพร้อมในการให้การช่วยเหลือลูกค้า

“จากการเพิ่มทุนใหม่นี้เรายังคงมีการสำรองเงินไว้สำหรับไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ เพื่อรองรับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้น พร้อมกันนี้คาดการณ์ว่าภาพที่ชัดเจนจากน้ำท่วม จะปรากฏตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2555 เป็นต้นไป รวมถึงข้อโต้แย้งกับทางบริษัทรับประกันภัยต่อนั้น บริษัทประมาณการว่าจะสามารถสรุปได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้หรือไตรมาสที่ 1 ของปีหน้า”

เมื่อเร็วๆ นี้ กรรมการผู้จัดการและประธานบริหาร บริษัท สยามซัมซุง ประกันชีวิต กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการขยายธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง บริษัทในเครือสหพัฒน์ และบริษัท ซัมซุง ประกันชีวิต (ประเทศเกาหลี) จะเพิ่มการลงทุนในไทยอีก 150 ล้านบาทจากเดิมที่มีทุนจดทะเบียน อยู่ที่ 500 ล้านบาท เพื่อตอบรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่สยามซัมซุง ประกันชีวิต ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถปิดยอดขายปี 2555 นี้ได้ตามเป้าหมาย เบี้ยประกันภัยรับรวมทุกช่องทาง 1,653 ล้านบาท

สำหรับไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรก จากช่องทางตัวแทนรวม 104.35 ล้านบาท เติบโต 62% เทียบกับไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมาถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี โดยเฉพาะในเดือนมีนาคมเดือนเดียวเติบโตถึง 97% ทั้งนี้บริษัทยังคงเน้นการสร้างตัวแทนขายมืออาชีพ ของช่องทางการประกันภัยรายบุคคลอย่างต่อเนื่อง พัฒนาทีมงานขายให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมปรับปรุงสัญญาเพิ่มเติมและสัญญาหลักอีกหลายตัว เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันการมีตัวแทนที่มีฝีมือขยันตั้งใจทำงาน บวกกับสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน ก็จะยิ่งทำให้การเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางตัวแทนเติบโตได้ง่ายขึ้น

ที่มา : สยามธุรกิจ