ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

โวเชื่อมั่นระบบป้องกัน กดเบี้ยประกันภัยลดลงอยู่ 30%

บริษัทรับประกันภัยต่อหลายราย ติดต่อเข้ามาทางกองทุน ได้มีการหารือต่อรองกันในอัตราเบี้ยประกันภัยต่อ

โวเชื่อมั่นระบบป้องกัน กดเบี้ยประกันภัยลดลงอยู่ 30%

มีนาคม
26

โดย อาร์วายทีไนน์ วันที่ 23 มีนาคม 2555 เวลา 01:51 น.

เลขาฯคปภ.ในฐานะกรรมการกองทุนประกันภัยพิบัติ คุยบริษัทรับประกันภัยต่อต่างชาติ กลับลำหันมาร่วมรับประกันภัยพิบัติ ฟุ้งระบบเชื่อมั่นการป้องกันของรัฐบาลทำให้เบี้ยประกันภัยเริ่มลดลง มาอยู่ที่ 3 % แต่ยังไม่ใช่ตัวเลขสุดท้าย พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการเอาประกันภัยต่อ และตั้งที่ปรึกษาต่างชาติขึ้นมาดูแลประกันภัยต่อต่างประเทศเพื่อความโปร่งใส

เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และกรรมการกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ กล่าวว่า ขณะนี้มีบริษัทประกันภัยต่อเริ่มมีความมั่นใจและกลับมาสนใจในกองทุนประกันภัยพิบัติอยู่หลายบริษัท เพราะมีความมั่นใจในการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อการรับประกันภัยต่อ โดยจะพบได้ว่ามีบริษัทรับประกันภัยต่อจากต่างประเทศได้ให้ความสนใจในการเข้าร่วมสัมมนา เรื่อง Critical Lessons from the Thai Floods ที่จัดขึ้นโดย Asia Insurance Review และSingapore Re. ที่มีผู้สนใจร่วมฟัง 250 ราย และมีบริษัทรับประกันภัยต่อหลายรายได้ติดต่อเข้ามาทางกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติบ้างแล้ว และได้มีการหารือต่อรองกันในอัตราเบี้ยประกันภัยต่อ ส่งผลให้อัตราเบี้ยประกันภัยต่อลดลงไปเรื่อยๆอยู่ที่ 3 % แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอนในอัตราเบี้ยประกันภัยดังกล่าว เพราะต้องรอให้อัตราเบี้ยประกันภัยต่อนิ่งเสียก่อน และมีโอกาสลดลงไปได้อีก

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2555 มีการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ มีมติเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเอาประกันภัยต่อ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ดูแลการประกันภัยต่อจากต่างประเทศ ซึ่งต้องการผู้ที่มาเป็นคณะอนุกรรมการเอาประกันภัยต่อต้องเป็นบุคคลมีความรู้ มีประสบการณ์ด้านการประกันภัยต่อต่างประเทศโดยเฉพาะ และจะมีการตั้งที่ปรึกษาขึ้นมาร่วมด้วย เพื่อทำงานร่วมกันกับคณะอนุกรรมการเอาประกันภัยต่อโดยที่ปรึกษาต้องการให้เป็นชาวต่างประเทศ เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสของการปฏิบัติงาน ขณะนี้ยังไม่มีการระบุว่าเป็นใคร ซึ่งต้องรอให้เซ็นต์ MOUและเปิดกรมธรรม์ภัยพิบัติในเฟสแรกก่อน จึงจะมีการหารืออีกครั้งในเรื่องดังกล่าวรวมถึงเปิดรับประกันภัยต่อในเฟสสอง

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 28 มี.ค.2555 เวลา 14.00 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล มีการเซ็นต์ MOU ลงนามและเปิดขายประกันภัยพิบัติในวันดังกล่าว โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน สำหรับภาคครัวเรือนคุ้มครองความเสียหายที่ไม่เกิน 1 แสนบาท โดยคิดค่าเบี้ยประกันภัยที่ 0.5 % ส่วนของเอสเอ็มอี คุ้มครองความเสียหาย 30% เบี้ยประกันภัยที่ 1% ของทุนประกันภัยไม่เกิน 50 ล้านบาท และภาคอุตสาหกรรม คุ้มครองความเสียหาย 30% เบี้ยประกันภัย 1.25 %

นอกจากนี้ คณะกรรมการกองทุนประกันภัยพิบัติได้กำหนดหลักเกณฑ์สำคัญในเบื้องต้น สำหรับการขายกรมธรรม์ภัยพิบัติ ได้แก่ น้ำท่วม แผ่นดินไหว และพายุ ในส่วนรายละเอียด โดยภัยพิบัติครอบคลุมถึงน้ำท่วม แผ่นดินไหวเกิน 7 ริกเตอร์ และลมพายุเกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนการจ่ายค่าสินไหมในส่วนของครัวเรือนกรณีน้ำท่วมจะพิจารณาจากรอยคราบน้ำในบ้าน หากมีน้ำเข้าบ้านได้รับเงินชดเชย 3 หมื่นบาท หากท่วมสูง 50 เซนติเมตรได้รับ 5 หมื่นบาท สูง 75 เซนติเมตรได้รับ 75,000 บาท และท่วมเกิน 1 เมตรขึ้นไปได้รับ 1 แสนบาท

สำหรับเงื่อนไขของผู้ที่ต้องการทำประกันภัยพิบัติ จะต้องมีกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย หรือกรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน หรือ ไอเออาร์ เพื่อให้มีผลกับความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ ผู้ซื้อต้องไม่อยู่ในพื้นที่ฟลัดเวย์ เช่น แก้มลิง พื้นที่กักเก็บน้ำ หรือทางน้ำผ่าน เพราะในเงื่อนไขในพื้นที่ดังกล่าว ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐอยู่แล้ว แต่ถ้าหากผู้ซื้อไม่ทราบว่าพื้นที่ตนเป็นพื้นที่ฟลัดเวย์หรือไม่ก็สามารถซื้อได้ก่อน และถ้าถูกประกาศว่าเป็นพื้นที่ฟลัดเวย์สามารถขอคืนเงินกับกองทุนฯ ได้

ที่มา : อาร์วายทีไนน์