ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

หลังน้ำท่วมประกันภัยไทยหัวกระไดไม่แห้ง ‘รี’ ใหม่เสี่ยงโชค

กลุ่มที่มองความเสี่ยงของประเทศไทยเป็นโอกาส ขยับมารับประกันภัยต่อตรงจากบริษัทประกันภัย

หลังน้ำท่วมประกันภัยไทยหัวกระไดไม่แห้ง ‘รี’ ใหม่เสี่ยงโชค

กุมภาพันธ์
25

โดย สยามธุรกิจ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 00:00 น.

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) หนึ่งในคณะกรรมการบริหารสมาคมประกันวินาศภัย (บอร์ด) และประธาน คณะกรรมการกฎหมายและกฎระเบียบให้ความเห็นว่า หลังภัยน้ำท่วมผ่านมา 3 เดือน ตลาดประกันภัยต่อมีการขยับตัวมาก ซึ่งการขยับตัวที่ชัดเจนคือ ในเดือนกุมภาพันธ์นี้มีบริษัทรับประกันภัยต่อจำนวนมาก เข้ามาเยี่ยมตลาดประกันภัยในประเทศไทยมีจุดประสงค์ 3 ประการคือ

กลุ่มที่ 1 ลดทอนกำลังความสามารถในการรับประกันภัย (Capacity) ในประเทศไทย เข้ามาทำความเข้าใจกับบริษัทประกันภัย เรื่องการลดทอนกำลังความสามารถ ลดมาร์เก็ตแชร์ ลดเงื่อนไขต่างๆ เช่น ลดค่าคอมมิสชั่น เป็นต้น

กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มที่มาสอบถามด้านสินไหมทดแทนมีการประมาณการเสร็จหรือยัง มีการจัดทำรายงานสำรวจภัย (Survey Report) ครบถ้วนหรือยัง เพื่อจะเอาตัวเลขสุดท้ายไปลงบัญชี อย่างบริษัทประกันภัยของญี่ปุ่น จะปิดงวดบัญชีวันที่ 31 มีนาคม ต้องรู้ผลประมาณการสินไหมที่ชัดเจนเท่าไหร่ เพื่อจะได้เตรียมเงินสด (Cash Flow) เงินกองทุนตามเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (Risk Based Capital : RBC) เพียงพอหรือไม่ บางรายร้องขอตัวเลขให้จัดส่งมาให้ เพื่อจะได้ทดลองจ่ายมาให้

และกลุ่มที่ 3 จะมาสอบถามบริษัทประกันภัย อยากได้เงื่อนไขความคุ้มครองภัยพิบัติเพิ่ม จากกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติของภาครัฐหรือไม่ รวมถึงถามความคืบหน้ากองทุนฯ ศึกษาโมเดลการรับประกันภัยของกองทุนฯ สอดคล้องกับการบริหารความเสี่ยงในประเทศไทยหรือไม่

สำหรับรีอินชัวเรอส์ที่เข้ามาในประเทศไทยแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ 1. กลุ่มที่มองความเสี่ยงของประเทศไทยเป็นโอกาส คือ บริษัท เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ (Berkshire Hathaway) จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทรับประกันภัยต่อช่วงของรีอินชัวเรอส์อีกต่อหนึ่ง ได้ขยับมารับประกันต่อตรงจากบริษัทประกันภัยเลย โดยเบิร์ก เชียร์ แฮทธาเวย์ เข้ามาบุกตลาดเมืองไทยอย่างหนักในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม ในช่วงที่บริษัทซีซีอาร์ ค่ายรับประกันภัยต่อรายใหญ่จากฝรั่งเศส ที่มีมาร์เก็ตแชร์ในประเทศไทยเกือบ 30% ถอนตัวออกไป เพียงในช่วงเวลาสั้นๆ ทางเบิร์ก เชียร์ ทำผลงานได้มีมาร์เก็ตแชร์ในสัญญาประกันภัยต่อของทั้งระบบถึง 20%

2. กลุ่มที่พยายามเสริมความต้องการของบริษัทประกันภัยในประเทศ เติมส่วนที่ขาดอยู่คือ ภัยมหันตภัย เนื่องจากบริษัทประกันภัยของไทยต้องต่อสัญญาประกันภัยต่อวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งกองทุนฯ ยังไม่ได้จัดตั้ง โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นมา มีกรมธรรม์จำนวนมากต้องต่ออายุ ขณะที่สัญญาประกันภัยต่อปกติ (Treaty) ปรับเงื่อนไขไม่คุ้มครองภัยพิบัติ ขณะที่ลูกค้าอยากซื้อบริษัทประกันภัย ต้องไปหาแบบประกันต่อแบบพิเศษรองรับ คือแบบ Risk excess of loss ที่คุ้มครองต่อหนึ่งภัย แต่ลิมิตความคุ้มครองไม่สูง เช่น 50 ล้านบาท กำหนดความรับผิดส่วนแรก (Deductible) สูงๆ เช่น 3-10 ล้านบาท คุ้มครอง 4 ภัยคือ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ลูกเห็บ และลมพายุ มากกว่ากองทุนฯ ที่ไม่ได้คุ้มครองลูกเห็บ

อีกแบบคือ Cat excess of loss เป็นการประกันภัยต่อภัยพิบัติลูกค้ารายใหญ่ คุ้มครองสูงกว่าแบบแรก โดยมีเงื่อนไขต้องมีความเสี่ยงภัยเกิดขึ้น 2 ภัยขึ้นไป ถึงจะเรียกร้องค่าเสียหายจากกรมธรรม์นี้ได้ ลิมิตความคุ้มครองสูง กำหนดความรับผิดส่วนแรกสูงเช่นกัน เช่น คุ้มครอง 500 ล้านบาท กำหนดความรับผิดส่วนแรก 50 ล้านบาท ซึ่งแบบประกันทั้ง 2 แบบบริษัทประกันภัยของไทย จ่ายเบี้ยให้กับรีอินชัวเรอส์แพงมาก อย่างแบบแรกคุ้มครอง 50 ล้านบาทจ่ายเบี้ยไป 12 ล้านบาท จากเดิมเสียเบี้ยแค่ 2 ล้านบาท ส่วนแบบที่สองคุ้มครอง 500 ล้านบาทจ่ายเบี้ยไป 30 ล้านบาท จากเดิมแค่ 3 ล้านบาท

“แบบประกันภัยทั้งสอง เป็นสินค้าใหม่ที่เบิร์กเชียร์นำเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา สาเหตุที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ เพราะหลักคิดคือ ท่านจงระมัดระวัง เมื่อเห็นคนอื่นตะกละตะกลาม และท่านจงตระกละตะกลาม ถ้าเห็นคนอื่นตกอยู่ในความระมัดระวัง ระหว่างที่ทุกคนกลัวรับความเสี่ยงในบ้านเรา ทางซีซีอาร์ถอนตัว ทุกคนไม่คุ้มครองภัยธรรมชาติ กลายเป็นช่องว่างให้เบิร์กเชียร์เข้ามา เขาเข้ามาท่ามกลางที่บ้านเราตกอยู่ในภาวะความเสี่ยง ไม่มีใครคุ้มครอง เมื่อมีคนโยนเชือกมาให้เราก็พร้อมหยิบแม้จะต้องจ่ายแพง”

เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ มีความมั่นคงสูงมาก ถือหุ้นในบริษัทยักษ์ใหญ่ในโลกหลายแห่งอาทิ บริษัทมิวนิว รี ค่ายรับประกันภัยต่ออันดับหนึ่งของโลก, ไอบีเอ็ม, ไอเม็กซ์ เป็นต้น น่าจะมีขนาดใหญ่ไม่น้อยกว่าท็อปไฟว์ของโลก รับทั้งต่อตรงและต่อช่วง ณ ตอนนี้เบิร์กเชียร์น่าจะเป็นผู้ชี้นำตลาดประกันภัยต่อในประเทศไทยได้พอสมควร จะเป็นตลาดที่อัตราเบี้ยต่ำ (Soft Market) หรือเบี้ยแพง (Hard Market) ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในภาวะฮาร์ด มาร์เก็ต แต่สิ่งที่ต้องเฝ้ามองคือ ความยั่งยืน ต้องกล้าที่จะนำสิ่งดีๆ มาให้ธุรกิจประกันภัย ต้องไม่มีอุปสรรคด้านการแข่งขัน

ที่มา : สยามธุรกิจ