ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

ประกันภัยพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ชูจุดขายคุ้มครองน้ำท่วมโกยเบี้ย

ต่อสัญญาในส่วนของอัคคีภัยไปก่อน เมื่อบริษัทประกันภัยสามารถกำหนดเบี้ยที่แน่นอนได้ ค่อยซื้อความคุ้มครองน้ำท่วมเพิ่ม

ประกันภัยพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ชูจุดขายคุ้มครองน้ำท่วมโกยเบี้ย

มกราคม
10

โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์วันที่ 29 ธันวาคม 2554 เวลา 12:26 น.

ความเสียหายครั้งใหญ่ของบ้านพักอาศัย โดยที่ไม่ทันตั้งตัวจากอุทกภัยน้ำท่วมที่ผ่านมา เป็นแรงกระตุ้นตลาดให้กลุ่มเจ้าของบ้านตื่นตัววิ่งหาซื้อประกันภัย เพื่อคุ้มครองภัยน้ำท่วมให้กับที่อยู่อาศัยของตนเองมากขึ้น จากเดิมที่ภัยน้ำท่วมถูกมองเป็นเรื่องไกลตัว จึงไม่ค่อยเห็นกลุ่มลูกค้ารายย่อยซื้อความคุ้มครองน้ำท่วมให้เห็นมากนัก

จากการสอบถามภาวะการซื้อประกันภัย เพื่อคุ้มครองน้ำท่วมในช่วงปลายปี 2554 พบว่ามีเจ้าของบ้านให้ความสนใจหลายราย ทั้งเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ และเจ้าของบ้านที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพื่อป้องกันความเสี่ยงในอนาคต ซึ่งกรมธรรม์ที่เจ้าของบ้านกลุ่มนี้มีอยู่เดิมเป็นกรมธรรม์อัคคีภัย ที่ไม่มีความคุ้มครองภัยน้ำท่วมรวมอยู่ด้วย แม้มองดูว่าจะเป็นโอกาสที่ธุรกิจประกันวินาศภัย จะได้รับความสนใจจากตลาดมากขึ้น แต่การขายผลิตภัณฑ์คุ้มครองน้ำท่วมในช่วงนี้ต้องหยุดชะงักชั่วคราว หาซื้อในตลาดไม่ได้ และต้องไปเริ่มต้นขายในไตรมาส 2 ปีหน้า เพราะปลายปีเป็นช่วงที่บริษัทประกันวินาศภัย อยู่ระหว่างการเจรจาต่อสัญญากับบริษัทรับประกันภัยต่อหรือรีอินชัวเรอร์ จึงยังไม่สามารถกำหนดอัตราเบี้ยที่แน่นอนได้

เมื่อไม่สามารถหาซื้อความคุ้มครองภัยน้ำท่วมจากตลาดได้ จะส่งผลกระทบอย่างแรก คือ ต่อการต่อสัญญากรมธรรม์ที่จะหมดอายุในช่วงนี้ ซึ่งบริษัทใช้วิธีต่อสัญญาให้ แต่ตัดความคุ้มครองภัยน้ำท่วมออกไป อย่างที่สอง คือ กลุ่มลูกค้าที่มีเฉพาะกรมธรรม์อัคคีภัย แต่ต้องการซื้อความคุ้มครองน้ำท่วมเพิ่มเติม ผู้อำนวยการฝ่ายสินไหมทดแทน บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) แนะนำว่า กรมธรรม์จะหมดอายุในช่วงนี้ให้ต่อสัญญาในส่วนของอัคคีภัยไปก่อน เมื่อบริษัทเจรจาได้ข้อสรุปกับรีอินชัวเรอร์แล้ว สามารถกำหนดเบี้ยที่แน่นอนได้ จึงค่อยมาซื้อความคุ้มครองน้ำท่วมเพิ่มในภายหลัง ซึ่งบริษัทจะชี้แจงให้ลูกค้าเข้าใจว่า ไตรมาสแรกยังไม่ใช่ฤดูฝน ภัยน้ำท่วมยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบซื้อทันทีในขณะนี้

ในช่วงที่ธุรกิจประกันวินาศภัยยังวิ่งวุ่น กับการเจรจาต่อสัญญาและต่อรองเงื่อนไขกับรีอินชัวเรอร์ ก็มีบางบริษัทพลิกมุมมองเป็นโอกาส ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อออกมาช่วงชิงยอดขาย โดยล่าสุดเคแบงก์ออกมาเปิดเผยว่า ในช่วงต้นปี 2555 เตรียมเปิดตัวประกันภัยที่อยู่อาศัยรวม 5 ภัย ได้แก่ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว ภัยจากลูกเห็บและภัยก่อการร้าย จ่ายค่าสินไหมตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง คิดเบี้ยประกัน 500 บาทต่อการกู้บ้านราคา 1 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยคาดว่าลูกค้าที่ขอสินเชื่อบ้านกับธนาคาร จะสนใจซื้อประกันภัยนี้ถึง 90%

แหล่งข่าวจากบริษัทประกันวินาศภัยวิเคราะห์ว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวของเคแบงก์ มีการกำหนดเบี้ยในราคาที่ถูกมากเมื่อเทียบกับของบริษัทอื่นๆ โดยก่อนหน้านี้ประกันภัยที่อยู่อาศัยของเคแบงก์ ยังไม่เคยมีความคุ้มครองภัยน้ำท่วมมาก่อน จึงได้มีการปรับรูปแบบกรมธรรม์ ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ในขณะที่ลูกค้าสินเชื่อบ้านของไทยพาณิชย์ ที่ซื้อประกันภัยพ่วงไว้ด้วยในขณะนี้ หากได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม บริษัทจะจ่ายค่าสินไหมให้เต็มทุนประกันภัย โดยไม่มี Sub Limit หรือการจำกัดความรับผิดของกรมธรรม์ประกันภัย สำหรับกรณีอุทกภัยน้ำท่วม

ผู้อำนวยการธุรกิจลูกค้ารายย่อย บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) กล่าวว่า ลูกค้าที่ซื้อประกันภัยที่อยู่อาศัยจากบริษัทส่วนใหญ่กว่า 80% เป็นลูกค้ามาจากการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารกรุงเทพ ซึ่งในกรมธรรม์จะมีความคุ้มครองภัยน้ำท่วมให้อยู่แล้ว แต่มีการจำกัด Sub Limit การจ่ายค่าสินไหมกรณีน้ำท่วมไม่เกิน 20% ของทุนประกันภัย สำหรับกรมธรรม์ที่ขายให้กับลูกค้าทั่วไป จะเป็นแบบแพคเกจที่ครอบคลุมน้ำท่วมและภัยธรรมชาติอื่นๆ เช่น ลมพายุ แผ่นดินไหว ลูกเห็บ และมีค่าเช่าที่พักชั่วคราวให้ระหว่างซ่อมแซมอาคารที่เสียหาย แต่กรมธรรม์ดังกล่าวยังที่ผ่านมา ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมจากตลาดมากนัก เนื่องจากเบี้ยต่อปีค่อนข้างแพง เริ่มต้นตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไปจนถึง 10,000 บาท

ทิศทางของการพัฒนา ผลิตภัณฑ์กลุ่มประกันภัยที่อยู่อาศัยในปีหน้า สำหรับกลุ่มลูกค้าของธนาคารกรุงเทพ จะยังคงเงื่อนไขความคุ้มครองเดิมไว้ แต่จะกำหนดความรับชอบค่าผิดเสียหายส่วนแรก (Deductible) เพิ่มเติมเข้าไป และจะไม่มีการปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัยมากนัก แต่ลูกค้าใหม่ที่ไม่ได้มาจากธนาคาร จะมีการพิจารณารับประกันภัย จากทำเลที่ตั้งของทรัพย์สิน กำหนด Sub Limit กรณีน้ำท่วมไว้ที่ 10% และความรับชอบค่าผิดเสียหายส่วนแรก 10,000 บาท ส่วนเบี้ยประกันภัยที่ต้องจ่ายมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นแน่นอน

ในปีหน้ากรุงเทพประกันภัยมีแผนจะออกกรมธรรม์ใหม่ ในกลุ่มประกันภัยเบ็ดเตล็ด คือ Home Content Insurance สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อความคุ้มครองทรัพย์สินเพิ่มเติม โดยจะเพิ่มความคุ้มครองอื่นๆ ที่มีความจำเป็นหากเกิดความเสียหายขึ้น เป็นการปิดช่องว่างของสินค้าที่มีอยู่เดิม เช่น ค่าใช้จ่ายในการปกป้องภัย (การจัดหากระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม) ค่าเช่าที่พักชั่วคราว ค่าบูรณะความเสียหายจากการโจรกรรมทรัพย์สิน ค่าขนย้ายซากทรัพย์ ค่าบริการทำความสะอาด โดยจะมี Sub Limit ระบุไว้ในแต่ละกรณี

ที่มา : ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์