โดย สยามธุรกิจ วันที่ 10 ธันวาคม 2554 เวลา 13:55 น.

วิกฤติน้ำท่วมส่งผลกระทบการทำตลาดของบริษัทประกันภัยให้ต้องชะงักงันไป แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายหลายบริษัทก็เริ่มปฏิบัติการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ฉวยจังหวะที่ลูกค้าตื่นตระหนกกับความเสียหายจากน้ำท่วมเริ่มมองหาประกันภัย เห็นได้จากหลายๆ บริษัทเริ่มใช้การทำตลาดผ่านโทรทัศน์ (Direct Response TV : DRTV) ซึ่งสามารถเข้าถึงลูกค้าตลาดแมส (Mass)

กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกโฆษณาผ่านโทรทัศน์ตัวใหม่ เพื่อโปรโมตแผนประกันสุขภาพ “ใจป้ำ” ซึ่งออกขายตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีนี้ โดยชูจุดขายที่ต่างจากเดิมออกไป ตรงที่ให้ผ่อนชำระเบี้ยผ่านบัตรเครดิตในอัตราดอกเบี้ย 0% นานถึง 12 เดือน และยังให้ส่วนลดเบี้ยประกันอีก 1 เดือนฟรี เท่ากับจ่ายเบี้ยเพียง 11 เดือน แต่รับความคุ้มครอง 12 เดือน

“เหตุที่เรานำแผนประกันใจป้ำมาโปรโมตในช่วงนี้ เพราะมองเห็นโอกาสในช่วงหลังน้ำลด จะมีเชื้อโรคเยอะขึ้น ก่อให้เกิดโรคภัยที่มากับน้ำ เช่น โรคฉี่หนู ตาแดง ท้องร่วง ไข้หวัดใหญ่ น้ำกัดเท้า ไข้ เลือดออก อหิวาตกโรค โรคพิษสุนัขบ้า และโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งคนจะตื่นตัวกับโรคภัยเหล่านี้มาก เพื่อเป็นการช่วยลูกค้าเราจึงนำแผนประกันภัยนี้มาโปรโมต โดยการให้เงื่อนไขพิเศษในการผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย และอัตราเบี้ยพิเศษ และยังถือเป็นกลยุทธ์การตลาดในช่วงเดือนสุดท้ายของปีนี้ด้วย”

สำหรับยอดขายแผนประกันใจป้ำ ที่ผ่านมายอมรับว่ายังต่ำกว่าเป้า โดยวางเป้าไว้ทั้งปีนี้ 100 ล้านบาท แต่ 7 เดือนที่ผ่านมาขายได้จริง เพียง 30% ของเป้า หรือ 30 ล้านบาท จากปัญหาความไม่สะดวกในเรื่องของช่องทางชำระเบี้ย ซึ่งมีเพียง 2 ช่องทาง คือ ชำระผ่านบัตรเครดิต และผ่านเอทีเอ็ม

“หากวัดในแง่เบี้ยที่เข้ามายังได้ต่ำกว่าเป้า แต่หากวัดจากความสนใจเวลาเราโทร.หาลูกค้า ต่างก็ตอบรับการซื้อ แต่ติดปัญหาช่องทางชำระเบี้ย และเราขายโดยใช้วิธีให้ชำระเบี้ยก่อนออกกรมธรรม์ ซึ่งตอนนี้เรากำลังแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจากับเซเว่นอีเลฟเว่น ให้ลูกค้าชำระเบี้ยประกันภัยผ่านทางเคาน์เตอร์ของเซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อให้สะดวกขึ้นแต่อาจจะเริ่มได้ในต้นปีหน้า ดังนั้นจากการโปรโมตผ่านทีวีในเดือนธันวาคมนี้ เราก็ตั้งเป้าว่าเฉพาะเดือนธันวาคมเดือนเดียวแผนนี้จะขายได้เบี้ยเข้ามาอีก 10 ล้านบาท”

สำหรับผลงานเบี้ยรับรวมของบริษัทในปีนี้ยอมรับว่า น่าจะทำได้เพียง 85% ของเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ 2,000 ล้านบาท หรือทำได้เพียงประมาณ 1,700 ล้าน บาทเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา อันเป็นผลกระทบจากน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ส่งผลให้โรงงานผลิตรถยนต์ต้องชะลอการผลิตไป 2 เดือนในช่วงกลางปี ทำให้รถใหม่หายไปจากตลาดค่อนข้างมาก ขณะที่ค่าสินไหมทดแทนจากภัยน้ำท่วมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 200 ล้าน บาท แบ่งเป็นสินไหมของประกันภัยทรัพย์สิน และประกันภัยรถยนต์อย่างละ 100 ล้าน บาท แต่บริษัทรับเสี่ยงภัยเองไม่ถึง 10%

ในฝั่งประกันชีวิต มีการแข่งกันออกสินค้าขายผ่านโทรทัศน์กันอย่างหนักต่อเนื่องตลอดปี แต่กลุ่มเป้าหมายยังคงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่มักจะหาซื้อประกันภัยได้ยาก บริษัทจึงนำมาเป็นจุดขายของสินค้าและเลือกให้สื่อทีวีเป็นตัวเข้าถึง เพราะล้วนแต่เป็นคนวัยเกษียณมักอยู่ติดบ้านไม่ใช่กลุ่มวัยทำงาน โดยช่วงนี้จะเห็นโฆษณาของ 2 บริษัทมากกว่ารายอื่น ได้แก่ แบบประกัน “อาวุโสโอเค” และ “แผนประกันมะเร็ง” ของเอไอเอ ประเทศไทย และแผนประกันภัย “เมืองไทยวัยเก๋า” ของบ.เมืองไทยประกันชีวิต จก. ซึ่งใช้ดารานักแสดงเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย

สำหรับแผนประกันอาวุโสโอเคของ เอไอเอ ใช้ดารานักแสดงอย่างเศรษฐา ศิรฉายา เป็นพรีเซ็นเตอร์มานานหลายปี จนกลายเป็นโลโก้ประจำของสินค้าตัวนี้ไปแล้ว แผนนี้เปิดรับผู้เอาประกันภัยอายุตั้งแต่ 50-70 ปี โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ ให้ความคุ้มครองถึงอายุ 90 ปี หรือตลอดชีพ หากเสียชีวิตโดยธรรมชาติในปีกรมธรรม์ที่ 1-2 รับผลประโยชน์เท่ากับ 102% ของเบี้ยประกันภัยที่ชำระแล้ว หากเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุในปีที่ 1-2 รับ 102% ของเบี้ยประกันที่ชำระแล้ว บวกกับเงินเอาประกันภัย และหากเสียชีวิตในปีที่ 3 เป็นต้นไป รับผลประโยชน์เท่ากับ 100% ของทุนประกันภัย

ส่วนแผนประกันมะเร็ง มีสินจัย เปล่ง พานิช เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งถือเป็นกรมธรรม์ใหม่ล่าสุดของเอไอเอที่ขายผ่านทีวี เปิดรับผู้เอาประกันอายุ 27-59 ปีโดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ ระยะเวลาชำระเบี้ยและระยะเวลาคุ้มครอง 5 ปี คุ้มครองครอบคลุมมะเร็งทุกชนิด ทั้งระยะไม่ลุกลามและระยะลุกลาม หากตรวจพบมะเร็งระยะไม่ลุกลาม ก็ยังคุ้มครองต่อไปสำหรับระยะลุกลาม

ขณะที่แผนประกันเมืองไทยวัยเก๋า มีพิธีกรอย่าง วิทวัส สุนทรวิเนตร์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ ระยะเวลาชำระเบี้ยและระยะเวลาคุ้มครองถึงอายุ 90 ปี เปิดรับผู้เอาประกันภัย รับประกันภัยผู้ที่มีอายุ 50-75 ปี โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ และให้ความคุ้มครองจากอุบัติเหตุสาธารณะเป็น 2 เท่า ซึ่งขณะนี้ปรับเป็น Extra ด้วยการขยายอายุรับประกันเป็นตั้งแต่ 40-75 ปี และขยายทุนประกันจากสูงสุด 200,000 บาทเป็น 400,000 บาทอีกด้วย

ที่มา : สยามธุรกิจ