โดย สยามธุรกิจ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2554 เวลา 00:00 น.

ผู้อำนวยการฝ่ายสินไหมทดแทน บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบลูกค้าที่ทำประกันภัยทรัพย์สินและประกันภัยรถยนต์ ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมที่มีการแจ้งเคลมเข้ามาแล้วจนถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2554 ค่าเสียหายรวมกว่า 10,000 ล้านบาท เป็นค่าเสียหายที่บริษัทรับประกันภัยไว้เอง หรือต้องจ่ายเองไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ที่เหลือทำประกันภัยต่อกับบริษัทรับประกันภัยต่อ (รีอินชัวเรอส์) ไว้

แบ่งเป็นค่าเสียหายประกันรถยนต์ชั้น1 ประมาณ 350 ล้านบาท รถได้รับความเสียหาย 1,400 คัน ประกันทรัพย์สินลูกค้ารายย่อยอาทิ บ้านอยู่อาศัย ร้านค้า 1,200 ราย ค่าเสียหายประมาณ 1,000 ล้านบาท และลูกค้ารายใหญ่ทุนประกันรวม 15,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 7 แห่ง

“ค่าสินไหมอาจจะเพิ่มมากกว่านี้อีก ตัวแปรอยู่ที่ลูกค้ารายใหญ่ สินไหมส่วนใหญ่อยู่ที่เครื่องจักรและประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก (business interrup tion : bi) เสียหายมากแค่ไหน แต่หากดูแลและฟื้นฟูเครื่องจักรหลังน้ำลดได้ดีและทำได้เร็ว ทำให้เกิดความเสียหายน้อยลง และกลับมาผลิตได้เร็วขึ้นจะทำให้สินไหมลดลงได้ประมาณ 1 ใน 4 ของความเสียหายทั้งหมด”

บริษัทใช้นโยบายทำเคลมเชิงรุกไม่ว่ารายใหญ่หรือรายย่อย อย่างรายใหญ่พื้นที่ไหนที่น้ำเริ่มลด จะติดต่อลูกค้าให้เร่งติดต่อคนขายเครื่องจักร พวกซัพพลายเออร์ต่างๆ ที่รู้วิธีดูแลเครื่องจักรอยู่แล้ว ให้วางมาตรการดูแลกู้เครื่องจักรขนย้ายหรือส่งซ่อมทันที ส่วนพื้นที่ไหนน้ำยังไม่ลดนัดหมายกำหนดการกันแล้ว ซึ่งบริษัทได้เริ่มเข้าไปประเมินความเสียหายพื้นที่ที่น้ำลดแล้วเช่นกัน คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้น่าจะเข้าไปได้ทุกโรงงาน”

ส่วนลูกค้ารายย่อย บริษัทได้ลิสต์รายชื่อลูกค้าที่ทำประกันภัยคุ้มครองภัยน้ำท่วมไว้ทั้งหมดออกมาดูว่า อยู่หมู่บ้านไหนบ้างที่ถูกน้ำท่วม พอน้ำลดจะรีบเข้าไปติดต่อลูกค้า รวมถึงลูกค้าที่ได้รับความเสียหายและยังไม่แจ้งเคลมเข้ามาด้วย เพราะน้ำยังไม่ลดคาดผู้เสียหายจะเพิ่มขึ้นอีก 1,000 ราย ขณะที่รถยนต์คาดว่าจะมีรถที่เสียหายแจ้งเคลมเพิ่มอีกประมาณ 400 คัน

“ในการทำเคลมอย่างลูกค้ารายย่อยเราจะมีจดหมายแจ้งไปยังลูกค้า เกี่ยวกับขั้นตอนการทำเคลม มีตารางให้ลูกค้ากรอกข้อมูลระบุทรัพย์สินที่เสียหายพร้อมราคา ให้พนักงานของเราถ่ายรูป พอวันรุ่งขึ้นจะกลับเข้าไปพร้อมผู้บริหารที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ไปตกลงราคาค่าเสียหาย เพื่อจะได้จ่ายอย่างรวดเร็ว ค่าเสียหายไม่สูงมาก เพราะจำกัดความรับผิดหรือซับลิมิตไว้ บ้านในกรุงเทพฯ น่าจะอยู่ประมาณ 300,000 บาท ดูจากทุนประกันภัย ระดับราคาบ้านถูกหรือแพงและภาพถ่ายความเสียหาย”

ด้านกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คาดค่าสินไหมทดแทนรวมจากอุทกภัยครั้งนี้ประมาณ 5,000 ล้านบาท ไม่รวมนิคมฯ ลาดกระบังและบางชัน เป็นค่าสินไหดแทนที่ต้องจ่ายเองประมาณ 300 ล้านบาทที่เหลือเป็นประกันภัยต่อ ในค่าสินไหมทั้งหมดเป็นประกันรถยนต์ประมาณ 70 กว่าล้านบาท จากรถยนต์ 700 กว่าคันที่แจ้งเคลมเข้ามาแล้วประเมินค่าเสียหายเฉลี่ยคันละ 100,000 บาท

ที่มา : สยามธุรกิจ