โดย สยามธุรกิจ วันที่ 13 สิงหาคม 2554 เวลา 00:00 น.
ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสินไหมทดแทน บริษัท วิริยะ ประกันภัย จำกัด ในฐานะคณะกรรมการประกันภัยยานยนต์ และประธานชมรมสินไหมยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัย กล่าวว่าจากปัญหาเงินเฟ้อสูงปัจจุบันอยู่ระดับ 3.4-3.5% และสิ้นปีมีแนวโน้มจะขยับเพิ่มเป็น 4% ส่งผลกระทบกับอู่ซ่อมรถยนต์ต้องมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ทั้งค่าอะไหล่แพงขึ้น ค่าแรงที่ต้องเพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดรับกับเงินเฟ้อและต้นทุนค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้น ทางอู่ซ่อมรถยนต์ที่เป็นคู่สัญญาของบริษัทประกันภัยแต่ละบริษัท เสนอขอปรับราคาค่าซ่อมหรือค่าแรงค่าซ่อม เพื่อให้สอดรับกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทประกันภัยแต่ละแห่งพิจารณาปรับเพิ่มให้อีก เฉลี่ยประมาณ 3-5% บริษัทไหนจะปรับเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท
“ทางชมรมสินไหมยานยนต์หยิบปัญหานี้มาพูดคุยกัน เห็นใจทางอู่มีต้นทุนเพิ่มขึ้น เพราะไม่ใช่แค่ปัญหาเงินเฟ้อเท่านั้น นโยบายของรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ที่จะปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 300 บาท จะมีผลกระทบต่อค่าแรงช่างด้วย แม้จะกระทบไม่มากเพราะตอนนี้ค่าแรงช่างรายวันส่วนใหญ่ทะลุ 500-800 บาทแล้วก็ตาม”
นอกจากปัญหาต้นทุนเพิ่มแล้ว อู่ซ่อมรถยนต์ยังเจอปัญหาใหญ่อีกอย่างหนึ่งคือ ขาดช่างฝีมือเพราะส่วนหนึ่งกลับไปทำเกษตรกรรมที่บ้าน อีกส่วนหนึ่งถูกศูนย์บริการ หรือผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ซื้อตัวไป โดยอู่ซ่อมรถยนต์ต้องไปสร้างช่างฝีมือรายใหม่ขึ้นมาแทน ซึ่งปัญหานี้อาจจะส่งผลกระทบมาถึงการซ่อมรถยนต์ ที่เป็นลูกค้าบริษัทประกันภัยบ้าง แต่สามารถส่งลูกค้าไปซ่อมกับอู่คู่สัญญาอื่นแทนได้
ต่อข้อถามการปรับราคาค่าซ่อมรถยนต์เพิ่มขึ้น จะทำให้ค่าสินไหมทดแทนประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจในปีนี้ เพิ่มขึ้นบ้างแต่ไม่รุนแรงมาก โดยค่าสินไหมทดแทนจะเพิ่มขึ้นมาจาก 2 ตัวแปรคือ การซ่อมทรัพย์สินซึ่งก็คือตัวรถยนต์ และการเพิ่มความคุ้มครองพื้นฐานประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ กรณีผู้ประสบภัยจากรถเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร (ฐานานุรูป) ที่กำหนดให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนขั้นต่ำ ไม่น้อยกว่า 300,000 บาท (เดิม 100,000 บาท)
ทั้ง 2 ตัวทำให้ค่าสินไหมทดแทนเพิ่มขึ้นไม่มาก อย่างตัวหลังค่าสินไหมทดแทนปีนี้ จะปรับเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5-7% เท่านั้น เนื่องจากจำนวนการเกิดอุบัติต่อครั้งต่อปีลดลง 1-2% เนื่องจากผู้ใช้รถยนต์มีความระมัดระวังมากขึ้น สภาพถนนดีขึ้น อีกทั้งช่วงหลังตำรวจจราจรรณรงค์วินัยในการการขับขี่มากขึ้น ทำให้การเกิดอุบัติเหตุลดลง สินไหมทดแทนลดลงไปด้วย
สำหรับวิริยะประกันภัยในประเด็นของการปรับราคาค่าซ่อม บริษัทปรับราคาค่าซ่อมให้กับอู่คู่สัญญาไปแล้วอีกประมาณ 3-5% เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เป็นการปรับทั้งระบบ โดยบริษัทมีอู่คู้สัญญาทั้งหมดกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ เป็นการปรับให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ที่มีเรื่องเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบกับค่าครองชีพด้วย อีกทั้งโมเดลรถยนต์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีผลทำให้ค่าแรงค่าซ่อมรถเปลี่ยนแปลงไปด้วย รถขนาดเดียวกันแต่รูปทรงไม่เหมือนกัน ทำให้ค่าซ่อมไม่เท่ากันต้องปรับให้สอดรับกัน
“การปรับราคาค่าซ่อมเพิ่มขึ้นไม่กระทบกับค่าสินไหมทดแทนของเรา การปรับให้สอดคล้องกับสโลแกนความเป็นธรรมคือ นโยบายของเรา เพื่อความเป็นธรรมกับอู่คู่สัญญาที่ถือเป็นคู่ค้าของเรา”
ที่มา : สยามธุรกิจ