โดย บ.กลางคุ้มครองผูู้ประสบภัยจากรถ วันที่ 4 สิงหาคม 2554 เวลา 00:00 น.

กรรมการผู้จัดการ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด กล่าวว่า 6 เดือนที่ผ่านมา สถิติจำนวนการเกิดอุบัติเหตุในส่วนของ พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ทั่วประเทศลงลงเล็กน้อย เป็นผลมาจาการที่บริษัท ได้เริ่ม โครงการรณรงค์สวมหมวกกันน๊อก 100% รวมถึงโครงการรณรงค์ต่างๆ ที่สนับสนุนและร่วมกันทำกับทางภาครัฐ ส่งผลให้อัตราความเสียหาย (ลอเรโซ) ลดลงจาก 108 – 10- เหลือ 97% โดยคาดว่าในสิ้นปี 2554 นี้จำนวนผู้ทำประกันภัย พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์จะเข้าสู้ระบบทั้งหมด และคิดเป็นจำนวนกรมธรรม์ 12-13 ล้านกรมธรรม์ หรือได้พอร์ตเกือบทั้งหมด 100% ของจำนวนรถ หลังจากที่บริษัทประกันวินาศภัยส่งงานทั้งหมดให้บริษัทกลางฯ เป็นผู้ดูแล ขณะที่รถยังไม่เข้าระบบมีจำนวนไม่มาก ซึ้งต้องใช้เวลาสักระยะ

“พ.ร.บ.มอเตอร์ไซค์ ตอนนี้เรารับเองทั้งหมดสัดส่วน 99% ส่วนที่เหลืออีก 1% จะมีบางบริษัทที่รับเองเพราะมีพอร์ตที่ทางโบรกเกอร์ส่งให้ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่ซื้อรถแล้วพ่วงประกันภัยเป็นแพ็กเกจมาเลย จึงถือเป็นรถที่ยังไม่เข้าระบบที่เราบริหารพอร์ตให้”

ด้านแผนงานต่อจากนี้ คือ บริษัทยังต้องวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นตัวนำรอ่งในการเก็บข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุเป็นสถิติไว้ด้วย โดยจะวิเคราะห์ว่าอุบัติเหตุแต่ละครั้งเกิดขึ้นจากอะไร จากนั้นนำสถิติที่เก็บเป็นข้อมูลส่งไปยังแต่ละจังหวัด เพื่อหาทางแก้การลดอุบัติเหตุสำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เช่น กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงจังหวัด นครราชสีมา จะต้องเพิ่มการรณรงค์ให้มากขึ้น ซึ้งจะส่งผลให้ลอซเรโซ พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ ทั่วประเทศลดลงอีกในอนาคต

ทั้งนี้ บริษัทได้พัฒนาระบบบริการเคลมออนไลน์ e-Claim หรือระบบรับแจ้งอุบัติเหตุผุ้ประสบภัยจากรถ ขยายกับโรงพยาบาลแล้วกว่า 99% หรือ 1,300 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเมื่อผู้ประสบภัยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน ขณะที่โรงพยาบาลบางแห่งมีพนักงานบริษัทประจำเพื่อบริการลูกค้า ส่วนการขยายระบบ e-Claim ไปยังคลินิกคาดว่ายังต้องประเมินถึงความพร้อมของเครื่องมือการรักษาและความสำคัญก่อน เนื่องจากบริษัทมองว่าการเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่ผู้บาดเจ็บจะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเลย เพราะอุบัติเหตุบางกรณีคลินิกรองรับได้แต่ลักษณะเบาๆ หรือเมาะกับการรักษาโรคเจ็บป่วยเท่านั้น

สำหรับกรณีการเพิ่มความคุ้มครองในส่วนการรับประกันภัย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ภาคบังคับ) ตั้งแต่ปี 2552 ที่กำหนดให้ผู้เอาประกันภัยหากเสียชีวิตจะได้เพิ่มความคุ้มครองเป็น 200,000 บาท จากเดิม 100,000 บาทกรณีสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพเพิ่มเป็น 35,000 บาท และมีเงินชดเชยรายวันให้อีก 200 บาทต่อวันไม่เกิน 20 วันนั้น ซึ่งเกณฑ์การจ่ายสินไหมที่เพิ่มขึ้นจะทยายส่งผลให้ลอซเรโซ พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ในปีนี้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพราะจำนวนกรมธรรม์ที่รับเพิ่มเข้ามาจนเกือบ 100% ดังนั้น ลอซเรโซจากที่ลดลงก็จะปรับเพิ่มอีกเล็กน้อย ขณะที่สถิติการเกิดอุบัติเหตุจะยังคงที่

และภายในสิ้นปีนี้จะเริ่มเห็นรูปธรรมที่ชัดเจนขึ้น จากการปรับเรื่องเกณฑ์การจ่ายสินไหม โดยเฉพาะกรมธรรม์ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปีนี้ ขณะที่ผลงานช่วง 6 เดือน (มกราคม – มิถุนายน) ที่ผ่านมาบริษัทมีเบี้ยอยู่ที่ 1,800 – 1,900 ล้านบาท

ขณะเดียวกันการจ่ายเงินสมทบของบริษัทประกันภัยยังคงจ่ายตามอัตราเดิม คือ 12.25% ของเบี้ยรับรวม พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์แต่ละบริษัท และยังไม่มีแนวโน้มขอปรับอัตราเงินสมทบจากบริษัทประกันภัยเพิ่ม เพราะหลังจากปรับโครงสร้างมาประมาณ 1 ปีเงินสมทบยังเพียงพอ แต่ในอนาคตหากพบว่าการเงินเริ่มมีปัญหา ก็จะเสนอเรื่องต่อรัฐเพื่อขอปรับเงินสมทบเพิ่มขึ้นอีก ซึ้งบริษัทยอมรับว่าอัตราการเติบโตในครึ่งปีแรกที่ดี เป็นเพราะเงินสมทบส่วนหนึ่ง

ส่วนการจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนของบริษัทนั้น ด้วยบริษัทเองเกิดขึ้นภายใต้ พ.ร.บ.พิเศษ มีบริษัทประกันภัยเป็นผู้ถือหุ้น ดังนั้นบริษัทกลางฯ จึงไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเป็นมหาชน แต่การบริหารงานของบริษัทได้ดำเนินตามแนวบริษัทมหาชนทั้งหมดอยู่แล้ว ส่วนงบการเงินมีการตรวจสอบบัญชีและรายงานต่อผู้ถือหุ้นตลอด ในการเทคนิคการบิรหารต่างๆ จึงสูงกว่ามาตรฐาน

ที่มา : บ.กลางคุ้มครองผูู้ประสบภัยจากรถ