ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

เคแบงก์ รุกทุกกลุ่มสินค้าประกันภัยลุยครึ่งหลัง

การเติบโตของช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ยังคงพุ่งทะยานต่อเนื่อง ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุุคคลและประกันรถยนต์ พร้อมออกแบบประกันภัยแบบแปลกๆ

เคแบงก์ รุกทุกกลุ่มสินค้าประกันภัยลุยครึ่งหลัง

กรกฎาคม
30

โดย สยามธุรกิจ วันที่ 23 กรกฎาคม 2554 เวลา 00:00 น.

การเติบโตของช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ยังคงพุ่งทะยานต่อเนื่อง ท่ามกลางการแข่งขันที่ยังหนักหน่วง เพื่อช่วงชิงบัลลังก์แชมป์ ซึ่ง ณ วันนี้ “ธนาคารกสิกรไทย” หรือ เคแบงก์ ยังรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ไว้ได้ ด้วยกลยุทธ์ “รุกทุกกลุ่มเป้าหมายขยายทุกช่องทาง” และเข้าถึงทุกเซ็กเมนต์ลูกค้า พร้อมทั้งการจัดสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า และเหมาะกับตัวผู้ขาย ซึ่งผลประกอบการครึ่งปีแรกทำให้มั่นใจว่าปีนี้จะทำได้ตามเป้าเบี้ยรวม 28,000-30,000 ล้านบาท และจะยังคงยึดบัลลังก์แชมป์ไว้ได้ต่อไป

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในส่วนของช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ในช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2554) ธนาคารสามารถทำเบี้ยรวมได้ 12,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยทำเบี้ยประกันภัยปีแรก (FYP) ได้ 5,700 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา “ความสำเร็จของช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ในปีนี้มาจากกลยุทธ์ “รุกทุกกลุ่มเป้าหมายขยายทุก ช่องทาง” ที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งหากเทียบผลงานครึ่งปีแรกกับผลงานของธุรกิจประกันชีวิตในช่วง 5 เดือนแรก (มกราคม-พฤษภาคม 2554) ตามข้อมูลของสมาคมประกันชีวิตไทย ซึ่งเบี้ยรวมเติบโตได้ 14% และเบี้ยปีแรกเติบโตได้ 7% ในขณะที่เราเติบโตได้ดีกว่า และยังทำผลงานได้ตามเป้า ก็เชื่อว่าเราจะสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งปีเบี้ยรวม 28,000-30,000 ล้านบาทได้ และยังจะรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ในช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ไว้ได้เช่นกัน”

อย่างไรก็ดี เบี้ยผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ ส่วนใหญ่กว่า 90% ยังคงมาจากสินค้าประกันชีวิต โดยในช่วงครึ่งปีหลังยังคงเน้นสินค้าในประเภทคุ้มครอง (Protection) และออม (Saving) โดยเฉพาะ 2 แบบประกันใหม่คือ แบบประกันชำระเบี้ยครั้งเดียว หรือซิงเกิลพรีเมี่ยม (Single Premium)10/1 ให้ ผลตอบแทนสูงถึง 4% และแบบประกันชีวิตมนุษย์เงินเดือน โดยซิงเกิลพรีเมี่ยมนั้นเริ่มออกขายมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน (Affluence) หรือกลุ่ม Wisdom ที่มีเงินฝากตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งเป้าเบี้ยไว้แค่ 500 ล้านบาท

แบบประกันชีวิตมนุษย์เงินเดือน ถือเป็นสินค้าที่เกิดจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขายผ่านแบงก์อย่างเต็มรูปแบบ โดยเกิดจากการวิจัยตลาดถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับกลาง (Middle Income) ที่ยังถือกรมธรรม์น้อย เพื่อมองหาโอกาสในการทำตลาดจนพบว่ากลุ่มมีรายได้ประจำ หรือกลุ่มมนุษย์เงินเดือนต้องการความคุ้มครองสุขภาพ และกังวลว่าหากเป็นอะไรไปจะส่งผลถึงครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนมีความสามารถในการชำระเบี้ยต่อเดือนที่ประมาณ 500-600 บาท จึงนำมาพัฒนาเป็นแผนประกันมนุษย์เงินเดือน

นอกจากนี้ จะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากโรคร้ายใน 4 กลุ่มโรคร้ายแรง ได้แก่ กลุ่มโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจ กลุ่มโรคมะเร็ง กลุ่มโรคที่มีภาวะขั้นรุนแรงขั้นสุดท้ายของตับ ปอด และไต และกลุ่มอื่นๆ เช่น อัลไซเมอร์ และทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร โดยคุ้มครองหากตรวจพบเป็นโรคใดโรคหนึ่งใน 4 กลุ่มโรคนี้จะได้รับเงินชดเชย 100,000 บาททันที โดยที่ไม่ต้องชำระเบี้ยในส่วนของคุ้มครองโรคร้ายแรงต่อ และยังได้รับความคุ้มครองในกลุ่มโรคที่เหลือต่อไปจนครบสัญญา

วินาศภัยเบี้ยยังน้อยแต่โตพรวดดีไซน์สินค้าเจาะกลุ่มไฮเอนด์เป้า 700 ล้าน ส่วนสินค้าประกันวินาศภัยยอมรับว่าเบี้ยยังไม่มากนักแต่ในแง่การเติบโตสูง โดยสินค้าที่ขายผ่านแบงก์ส่วนใหญ่จะเป็นประกันพีเอ และประกันรถยนต์ชั้น 2 และชั้น 5 ไม่มีประกันอัคคีภัย ซึ่งเบี้ยต่อกรมธรรม์ไม่สูงนักจึงทำให้เบี้ยน้อยแต่เติบโตดีมาก โดยครึ่งปีแรกทำเบี้ยได้ประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งนับว่าพอใจจากเป้าหมายทั้งปีวางไว้ที่ 600 ล้านบาท ก็น่าจะทำได้และคาดว่าน่าจะสามารถทำเบี้ยได้ถึง 700 ล้านบาท จากปีที่แล้วทั้งปีทำได้ 500 ล้านบาท

“การทำตลาดประกันวินาศภัย เราจึงหันมาเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์มากขึ้น ด้วยการออกแบบประกันเฉพาะกลุ่ม หรือแบบประกันแปลกๆ เช่น แผนประกันภัยของสะสม (Private Collection) ที่ออกไปแล้ว และกำลังจะออกแผนประกันภัยสุขภาพ รวมทั้งประกันภัยสัตว์เลี้ยง เป็นต้น น่าจะตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับบนได้ดี”

ที่มา : สยามธุรกิจ