ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

ย้ำก.ม.ไม่บังคับทุนจดทะเบียนขั้นต่ำของ บ.ประกันภัย

ก.ม.ไม่บังคับทุนจดทะเบียนขั้นต่ำสำหรับบริษัทประกันภัย ยกเว้นประมูลงานรัฐวินาศภัยต้องถึง 300 ล้าน เข้มงวดกฎ RBC

ย้ำก.ม.ไม่บังคับทุนจดทะเบียนขั้นต่ำของ บ.ประกันภัย

กรกฎาคม
15

โดย สยามธุรกิจ วันที่ 9 กรกฎาคม 2554 เวลา 00:00 น.

คปภ.ย้ำกฎหมายไม่ได้กำหนดบริษัทประกันชีวิต ประกันวินาศภัยต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วขั้นต่ำ 500 ล้านบาทและ 300 ล้านบาท ชี้คุมเข้มแค่เงินกองทุนเหตุเป็น KPI วัดฐานะการเงิน ความมั่นคง ตามเกณฑ์ RBC ตั้งแต่ 1 กันยายนนี้ ทุกบริษัทต้องมีเงินกองทุนขั้นต่ำ 125% จากเดิมล็อกไว้แค่ 100% แจงบริษัทประกันวินาศภัยบางแห่งเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 300 ล้านบาท น่าจะเกี่ยวกับการยื่นประมูลโครงการรัฐกำหนดคุณสมบัติต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำเท่านี้ ไม่ถึงหมดสิทธิ์แข่ง

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามกฎหมายประกันภัยหรือตามระเบียบของคปภ. ไม่ได้กำหนดให้บริษัทประกันวินาศภัย ต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำชำระแล้ว 300 ล้านบาท บริษัทประกันชีวิตต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำชำระแล้ว 500 ล้านบาท แต่ละบริษัทมีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ก็ได้ กำหนดแค่ระดับเงินกองทุนขั้นต่ำเท่านั้น ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัด (KPI) ฐานะการเงินและความมั่นคงของบริษัทประกันภัย

ซึ่งตามพ.ร.บ.ประกันชีวิตและ พ.ร.บ.ประกันวินาศภัยฉบับที่ใช้อยู่ ในปัจจุบันกำหนดให้บริษัทประกันภัย ต้องมีเงินกองทุนขั้นต่ำต่อเงินกองทุน ที่ต้องดำรงตามกฎหมายไม่น้อยกว่า 100% แต่ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป คปภ. จะเริ่มบังคับใช้เกณฑ์ใหม่การดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (Risk Based Capital : RBC) กำหนดให้บริษัทประกันภัยต้องมีเงินกองทุนขั้นต่ำ 125% โดยองค์ประกอบของเงินกองทุนหลักๆ ได้แก่ ทุนเรือนหุ้น, กำไรสะสม, เงินที่ได้จากการ ขายตราสารหนี้ด้อยสิทธิ์ระยะยาว, การตีราคาทรัพย์สินเพิ่มขึ้น เช่น อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

“การมีทุนจดทะเบียนเยอะไม่ได้หมายความว่า บริษัทไหนจะดีแข็งแกร่งหรือมั่นคง อยู่ที่ผลประกอบการของบริษัท หากมีผลขาดทุนสะสมมากกว่ากำไรสะสม ทุนล้างทุนที่มีอยู่หมดเกลี้ยง อย่าง บริษัท ฟินันซ่าประกันชีวิต จำกัด มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วถึง 2,200 ล้านบาท แต่ขาดทุนสะสมมากเกินทุนที่มี อยู่ทำให้ทุนหมดเกลี้ยงจนทำให้เงินกองทุนติดลบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต้องมีคำสั่งเข้าไปควบคุมบริษัท ซึ่งภายใต้การควบคุมต่อต้องมามีการลดทุนจดทะเบียนเพื่อล้างขาดทุนสะสม หรือหากผู้บริหารมีการยักยอกเงินออกไปทำให้ทุนที่มีอยู่หมดเช่นกัน

ดังนั้นสำหรับธุรกิจประกันภัยแล้วเงินกองทุนสำคัญที่สุด” ส่วนที่บริษัทประกันวินาศภัยบางแห่งต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนขั้นต่ำให้เป็น 300 ล้านบาทนั้น น่าจะเกี่ยวกับการที่บริษัทประกันวินาศภัยนั้นๆ จะเข้าไปยื่นประมูลประกันภัยโครงการของภาครัฐมากกว่า ซึ่งทางเจ้าของโครงการจะกำหนดคุณสมบัติของบริษัทประกันภัย ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท เพื่อแสดงถึงความมั่นคงของบริษัทถึงจะประมูลงานได้ สำหรับกรอบของ RBC ที่บริษัทประกันภัยจะต้องเริ่มปฏิบัติตั้งแต่ปี 2554 นี้ ทาง คปภ. กำหนดไว้ 3 เฟส
- เฟสแรก 1 กันยายน 2554-31 ธันวาคม 2555 กำหนดอัตราความพอเพียงของเงินกองทุนเท่ากับ 125%
- เฟสสองตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556-31 ธันวาคม 2558 เท่ากับ 140% และ
- เฟสสามตั้งแต่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไปเท่ากับ 150% โดยเกณฑ์ 150%

คปภ.มองว่าเป็นระดับเงินกองทุนที่เหมาะสมกับธุรกิจประกันภัยของประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เทเวศประกัน ภัย จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งกับคปภ. เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 180 ล้านบาท ของเดิมมีอยู่ 120 ล้านบาท รวมเป็น 300 ล้านบาท ซึ่งทุนจดทะเบียนของใหม่ยังไม่ได้เรียกชำระ อนึ่ง คปภ.อยู่ระหว่างการทดสอบคู่ขนาน การกำกับเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (RBC Parallel Test) ครั้งที่ 2 ตามเกณฑ์ RBC กำหนดให้บริษัทประกันภัยทุกแห่งส่งผลการทดสอบให้กับสำนักงาน คปภ. ภายในวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งคปภ. จะนำผลการทดสอบมาปรับปรุงร่างประกาศต่างๆ เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ก่อนที่ RBC จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กันยายน 2554 นี้ โดยเชื่อว่าผลการทดสอบครั้งนี้น่าจะดีกว่าครั้งก่อน เนื่องจากคปภ.ได้ปรับค่าความเสี่ยงที่ต้องมีเงินกองทุนมารองรับ (Risk Charge) บางตัวให้เหมาะสมมากขึ้นเพื่อให้ปฏิบัติได้

ที่มา : สยามธุรกิจ