ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

ประกันภัยแหยงน้ำท่วมบ่อยเสียหายเยอะ

ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดถี่ขึ้นและรุนแรงมากขึ้น บริษัทประกันภัยในไทยและรับประกันภัยต่อต่างประเทศ ต้องทบทวนแนวทางการรับประกันภัยใหม่

ประกันภัยแหยงน้ำท่วมบ่อยเสียหายเยอะ

กรกฎาคม
11

โดย สยามธุรกิจ วันที่ 6 กรกฎาคม 2554 เวลา 00:00 น.

บริษัทประกันภัยเริ่มกังวลกับปัญหาน้ำท่วมที่เกิดถี่ขึ้นในประเทศไทยและแต่ละครั้งรุนแรงมากขึ้น ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ยกตัวอย่าง หาดใหญ่จากที่เคยเกิดน้ำท่วม 10 ปีครั้งเมื่อปี 2531 มาปี 2543 และปี 2553 ตอน นี้เกิดทุกปี อีกทั้ง 3 ครั้งที่เกิดเป็นช่วง ปลายปีประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม แต่ตอนนี้เกิดช่วงต้นปีเดือนมีนาคมที่เกิดน้ำท่วมภาคใต้ แม้จะไม่เกิดที่หาดใหญ่ก็ตาม “บริษัทประกันภัยรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ ไม่ค่อยมั่นใจฤดูกาลน้ำท่วม ไม่เหมือนในอดีตเป็นผลมาจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และภาวะโลกร้อน แนวคิดในเรื่องการเกิดภัยธรรมชาติเริ่มไม่คงเส้นคงวา ส่งผลกระทบต่อการรับประกันภัย ทำให้บริษัทประกันภัยต้องทบทวนแนวทางการรับประกันภัยใหม่ และไม่ใช่แค่บริษัทประกันภัยในไทยที่กังวลเรื่องนี้ บริษัทรับประกันภัยต่อในต่างประเทศ (รีอินชัวเรอส์) ก็กังวลด้วย”

ทั้งนี้ ความเสี่ยงเรื่องภัยธรรมชาติโดยเฉพาะน้ำท่วม เป็นความเสี่ยงที่บริษัทประกันภัยระวังตัวมากขึ้นเนื่องจากน้ำท่วม เป็นภัยที่เกิดแต่ละครั้งใหญ่และกินพื้นที่กว้าง ความเสี่ยงของการสะสมของภัยมีมากขึ้น ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดการรับประกันภัยใน 2 จุด คือเบี้ยประกันภัยต้องคิดเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ ซึ่งในอดีตเคยแถมให้ฟรีหรือถ้าคิดเบี้ยประกันภัยก็คิดในอัตราที่ถูกมาก รวมไปถึงเงื่อนไขการรับประกันภัยต้องเป็นอย่างไรที่บริษัทประกันภัยจะสามารถรับได้ หรือผู้เอาประกันภัยต้องมีบทบาทในการป้องกันตัวเองอย่างไรเพื่อช่วยลดความเสี่ยง ซึ่งเป็นประเด็นผู้เอาประกันภัยเป็นเรื่องที่บริษัทประกันภัยหันมาให้ความสนใจมากขึ้น

“บริษัทประกันภัยต้องประเมินตัวเองได้ คือ ต้องรู้ให้ได้ว่าถ้าเกิดน้ำท่วมใหญ่ ขึ้นมาต้องจ่ายเท่าไหร่ และอยู่ได้หรือไม่ เป็นสิ่งที่บริษัทประกันภัยต้องเรียนรู้ตามหลักของการบริหารจัดความเสี่ยงองค์กร (Enterprise Risk Management:ERM) ตามแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการ กำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทุกบริษัทต้องให้ความรู้กับพนักงานการพิจารณารับประกันภัย ให้มีความรู้และความเข้าใจราคาเบี้ยประกันภัยและเงื่อนไขควรจะเป็นอย่างไร”

ประเทศไทยยังขาดข้อมูลน้ำท่วม เช่น พื้นที่ไหนท่วมมากท่วมน้อย ไม่เหมือนประเทศพัฒนาจะมีแผนที่น้ำท่วมที่สามารถบอกแต่ละพื้นที่น้ำท่วมสูง ต่ำมากแค่ไหนสามารถจำลองได้ว่าถ้าน้ำท่วม 1 เมตรหรือ 2 เมตรจะโดนตรงจุดไหนบ้าง ซึ่งขณะนี้ทางสมาคมประกันวินาศภัยเตรียมจะเก็บข้อมูลสถานที่ ตั้งทรัพย์สินที่เอาประกันภัยกำหนดจีพีเอส ที่ตั้งทรัพย์สิน โดยร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์กร มหาชน) หรือ สทอภ. จัดทำแผนที่ความเสี่ยงภัยน้ำท่วม (Flood Mapping) ซึ่งจะแล้วเสร็จใน 6 เดือนข้างหน้านี้

ซึ่งการมีแผนที่ความเสี่ยงภัยน้ำท่วมจะสามารถกำหนดได้ว่า แต่ละพื้นที่มีความเสี่ยงอย่างไร สามารถคิดเบี้ยประกันภัยให้สอดรับกับแต่ละพื้นที่ได้ หากพื้นที่ไหนน้ำท่วมมากเบี้ยจะแพง พื้นที่ไหนน้ำท่วมน้อยเบี้ยจะถูกลง

“หากมีแผนที่ความเสี่ยงภัยน้ำท่วมบริษัทประกันภัย จะสามารถปรับเบี้ยประกันภัยตามสภาพความเสี่ยงภัยได้ เพราะถ้าราคาเบี้ยไม่มากบริษัทประกันภัยก็ไม่อยากขาย เราจะปรับเบี้ยได้อีก 6 เดือนข้างหน้าเมื่อแผนที่ความเสี่ยงภัยน้ำท่วมทำเสร็จ ซึ่งการปรับปรุงเบี้ยคปภ.ต้องเห็นชอบด้วย ระหว่างนี้บริษัทก็พิจารณากันไปเองก่อน หากเป็นประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (Industrial All Risk : IAR) รวมคุ้มครองน้ำท่วมอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นประกันอัคคีภัยต้องซื้อเพิ่มซึ่งถ้าเป็นพื้นที่น้ำท่วมบ่อยๆ ที่อยากจะซื้อหากราคาไม่จูงใจบริษัทประกันภัยก็ไม่อยากขาย”

ระยะหลัง บริษัท รับประกันภัยต่อในต่างประเทศพยายามมา ดูข้อมูลน้ำท่วมในประเทศไทยมากขึ้นไม่กล้าโค้ดราคาเบี้ยประกันภัยให้ เดิมมองประเทศไทยไม่มีความเสี่ยงมาก น้ำท่วมไม่มาก แต่ช่วงหลังเริ่มกังวลน้ำท่วมถี่และหนักขึ้น มีการคุยกับบริษัทประกันภัยแต่ละบริษัท อาจจะจำกัดการรับประกันภัยหรือลดวงเงินที่จะรับประกันลง เพราะมีโอกาสเกิดน้ำท่วมทั่วประเทศ อีกทั้งผลประกอบการในไตรมาสแรกของรีอินชัวเรอส์ทั่วโลกขาดทุน เนื่องจากเกิดมหันตภัยใหญ่ๆ ทั่วโลก

ที่มา : สยามธุรกิจ