ผลพวงจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ช่วงปลายปี 2554 สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของบริษัทประกันภัยและประกันชีวิต ที่ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ลูกค้าที่ซื้อประกันภัยความเสี่ยงเอาไว้
ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ล่าสุดแจ้งว่า ยอดเงินที่บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมไปแล้ว ประมาณ 2 แสนล้านบาท จากยอดสินไหมรวม 4.8 แสนล้านบาท ทำให้มีความวิตกกังวลถึงฐานะทางการเงินของบริษัทประกันภัยกันมากขึ้น อาจถึงขั้นต้องเพิ่มทุนเพื่อเสริมฐานะ
ข่าวจากสำนักงาน คปภ. เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้บริษัทประกันภัยหลายราย ได้ทยอยจ่ายสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว แต่ คปภ.ยังต้องติดตาม และเร่งรัดการจ่ายสินไหมให้ครบถ้วนตามสัญญาที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ รวมถึงติดตามปัญหาสภาพคล่องของบริษัทด้วย โดยเฉพาะบริษัทประกันภัยจากญี่ปุ่น ที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากวิกฤติน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา
"ล่าสุด กระทรวงการคลังและสำนักงาน คปภ. ได้อนุมัติให้บริษัท โตเกียวมารีนศรีเมืองประกันภัย เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 3,000 ล้านบาท เป็น 3,020 ล้านบาท เพื่อรองรับการดำรงเงินกองทุน และรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต" แหล่งข่าวกล่าว
นายกสมาคมประกันวินาศภัย กล่าวว่า แม้ว่าแนวโน้มธุรกิจประกันภัยในช่วงครึ่งปีหลังจะยังสดใส โดยเฉพาะตลาดประกันภัยรถยนต์ ที่จะเติบโตต่อเนื่องจากการที่ธุรกิจยานยนต์ฟื้นตัวจากภาวะน้ำท่วม แต่อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะผลกระทบจากวิกฤติหนี้ในสหภาพยุโรป ซึ่งยังไม่มีการประเมินได้ชัดเจนว่าผลกระทบจะมีมากน้อยแค่ไหน
เลขาธิการ คปภ. กล่าว ช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย.) ธุรกิจประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยรวม 170,361 ล้านบาท ขยายตัว 16.90% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 115,307 ล้านบาท ขยายตัว 15.79% ส่วนประกันวินาศภัยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 55,053 ล้านบาท ขยายตัว 19.31% ซึ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถสูงสุด 31,758 ล้านบาท ขยายตัว 15.69% ส่งผลให้ช่วง 4 เดือน มีจำนวนกรมธรรม์ประกันภัยทั้งสิ้น 15,484,832 ราย จำนวนเงินเอาประกันภัยทั้งสิ้น 25,753,088 ล้านบาท เป็นกรมธรรม์ประกันชีวิต 1,769,054 ราย เงินเอาประกันภัย 1,128,318 ล้านบาท และกรมธรรม์ประกันวินาศภัย 13,715,778 ราย เงินเอาประกันภัย 24,624,770 ล้านบาท.
ที่มา : อาร์วายทีไนน์