โดย สยามธุรกิจ วันที่ 29 ตุลาคม 2554 เวลา 00:00 น.
นายกสมาคมประกันวินาศภัย กล่าวว่า ผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านอยู่อาศัยได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ควรให้ความสำคัญกับการศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครอง จากกรมธรรม์ประกันภัยที่ได้ทำไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ได้เอาประกันภัย ในช่วงที่ยื่นขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากทางธนาคารต่างๆ เนื่องจากในช่วงที่เกิดน้ำท่วม หลายคนอาจมีความกังวลใจในเรื่องต่างๆ จนอาจลืมมองข้ามสิทธิด้านการประกันภัยที่อยู่อาศัยที่ได้ทำไว้ ควรตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยทุกประเภทที่มีอยู่ เช่น กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล(พีเอ) กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย
กรณีที่อยู่อาศัยเกิดความเสียหาย ควรแจ้งบริษัทประกันภัยทราบในทันทีเท่าที่สามารถจะกระทำได้ หรือหากไม่สามารถแจ้งบริษัทประกันภัยได้ทันทีที่เกิดเหตุ ให้ถ่ายรูปความเสียหายไว้ โดยกล้องถ่ายรูปหรือโทรศัพท์มือถือ เก็บไว้เป็นหลักฐานและแจ้งการเกิดเหตุ ไปยังบริษัทประกันภัยภายหลังโดยเร็วที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้ ทั้งนี้การขอเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ต้องขึ้นอยู่กับภัยที่กรมธรรม์ให้การคุ้มครอง และเงื่อนไขรวมทั้งขอบเขตความคุ้มครองของบริษัทประกันภัยแต่ละบริษัทด้วย
สำหรับที่อยู่อาศัยกรณีที่ทำประกันอัคคีภัย และมีเอกสารแนบท้ายคุ้มครองภัยน้ำท่วม แสดงว่ามีความคุ้มครองความเสียหายของตัวบ้านที่ทำประกันภัยไว้ ซึ่งต้องดูว่าเงื่อนไขรายการทรัพย์สินที่เอาประกันภัย ระบุครอบคลุมถึงอะไรบ้าง อาทิ สิ่งปลูกสร้างตัวอาคาร รวมเฟอร์นิเจอร์หรือไม่ (แต่ไม่คุ้มครองทรัพย์สินมีค่าหรือพวกเงินทองฯลฯ) โดยเงื่อนไขความคุ้มครองอาจจะแยกมูลค่าทุนประกันภัย ของสิ่งปลูกสร้างตัวอาคาร กับเฟอร์นิเจอร์ออกจากกัน
ส่วนการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยภายหลังเหตุการณ์น้ำท่วม เมื่อได้สำรวจรายการทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายเรียบร้อยแล้ว เจ้าของบ้านสามารถหาบริษัทผู้รับเหมา เพื่อทำการประเมินราคาค่าซ่อมแซม และนำเสนอบริษัทประกันภัยให้พิจารณาเห็นชอบต่อไป ซึ่งผู้เอาประกันและบริษัทประกันภัย อาจมีการเจรจากันอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะมีการตกลงค่าสินไหมทดแทนที่เป็นจริง อนึ่งหากกรมธรรม์หายหรือหาไม่พบ และไม่ทราบว่าประกันภัยไว้กับบริษัทใด สามารถติดต่อที่สมาคมประกันวินาศภัยเบอร์ 0-2256-6032-6 ทางสมาคมฯจะประสานหาข้อมูลบริษัทประกันภัยให้
ที่มา : สยามธุรกิจ