โดย สยามธุรกิจ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 09:32 น.

ตำแหน่ง “เลขาธิการ” คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบ ธุรกิจประกันภัย หรือคปภ. ที่ถึงเวลาต้องสรรหาตัวบุคคลกันใหม่ เพื่อมาทำหน้าที่แทน “จันทรา บูรณฤกษ์” ที่จะก้าวลงจากตำแหน่ง เพราะหมดวาระการทำงานในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ หลังจากอยู่ในตำแหน่งมา 4 ปี เริ่มเข้มข้นมากขึ้นทุกขณะ เพราะหลังจากหมดเขตยื่นใบสมัครเลขาธิการคปภ. เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้สมัครที่มีชื่อเสียงคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ทั้งในแวดวงการเงินการธนาคาร ประกันภัย มายื่นใบสมัคร “ชิงดำ” เก้าอี้เลขาธิการคปภ. ด้วยกันหลายรายถูกยกเป็นตัวเต็ง

เท่าที่ทราบบุคคลดังๆ ที่ยื่นใบสมัครเข้ามาได้แก่ นายสมชัย อภิวัฒนพร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นางสาวชำเลือง ชาติสุวรรณ ที่ปรึกษาสำนักงาน คปภ. นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหาร บริษัท เอไอเอ ประเทศไทย และนายกสมาคมประกันชีวิตไทย เป็นต้น

อย่างไรก็ดีหลังจากนี้ ทางอนุกรรมการคัดเลือกเลขาธิการคปภ.ที่มีนายโกวิทย์ โปษยานนท์ คณะกรรมการคปภ. (บอร์ดคปภ.) เป็นประธานจะเชิญผู้สมัครมาแสดงวิสัยทัศน์ เกี่ยวกับนโยบายทั้งการกำกับดูแล และการพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัย ก่อนจะรวบรวมคะแนนนำเสนอต่อบอร์ดคปภ. เพื่อคัดเลือก หลังจากคัดเลือกเสร็จ บอร์ดคปภ. จะนำรายชื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่งตั้งโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

สำหรับผู้สมัครที่เป็นตัวเต็งทั้ง 4 คน ถ้าวิเคราะห์ในขณะนี้ผู้ที่มาแรงที่สุด น่าจะเป็นนายสมชัย ซึ่งมีข่าวว่าได้รับการสนับสนุนอย่างมาก จากฝั่งกระทรวงการคลังด้วยเหตุเป็นลูกหม้อกระทรวงการคลัง

ส่วนนางอัจนา จัดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการเงิน การธนาคาร หุ้นมากว่า 20 ปี เคยมีประสบการณ์ช่วงวิกฤติการเงินปี 2540 ก่อนจะเข้ามาเริ่มงานที่แบงก์ชาติเมื่อปี 2541

สำหรับนางสาวชำเลือง เป็นบุคคลเดียวในกลุ่มผู้สมัครที่เป็นลูกหม้อกรมการประกันภัย (คปภ.ในปัจจุบัน) มากว่า 30 ปี เริ่มจากสายงานตรวจสอบ ก่อนจะได้ทุนไปเรียนคณิตศาสตร์ประกันภัยที่สหรัฐอเมริกา กลับมาก็มาอยู่สายประกันชีวิตเติบโตในสายงานนี้ จนก้าวขึ้นเป็นผู้อำนวยการ

ส่วนนายสุทธิเป็นผู้บริหารจากบริษัทประกันภัยเพียงหนึ่งเดียว ที่ยื่นใบสมัครเช่นกัน เป็นบุคคลที่คร่ำหวอดในธุรกิจประกันชีวิตมานาน และเคยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมประกันชีวิตไทยมาแล้วเมื่อปี 2543-2547

แหล่งข่าวจากวงการประกันให้ความเห็นว่า ในมุมของธุรกิจประกันภัยอยากได้คนที่อยู่ในแวดวงประกันภัย เพราะพูดคุยกันได้ง่ายกว่า สามารถสานงานต่างๆ ต่อได้ทันที หากเอาคนนอกเข้ามาต้องใช้เวลา 6 เดือนในการเรียนรู้

ภารกิจหลักของเลขาธิการคนใหม ่น่าจะมีอยู่ 2 เรื่องคือ การผลักดันเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (Risk Based Capital : RBC) ให้บรรลุวัตถุประสงค์ เพราะหลังจากปี 2555 เกณฑ์ RBC จะเข้มข้นมากขึ้น บริษัทประกันภัยที่ไม่สามารถปฏิบัติตามเกณฑ์ได้ คปภ. จะมีมาตรการจัดการอย่างไร และการผลักดันแผนพัฒนาการประกันภัยฉบับ 2 ให้บรรลุผล หลังจากนี้คงต้องติดตามลุ้นเลขาธิการคนใหม่ จะเป็นผู้ชายคนแรกหรือผู้หญิงคนที่สอง

ที่มา : สยามธุรกิจ