โดย สยามธุรกิจ วันที่ 13 กรกฎาคม 2554 เวลา 00:00 น.
คปภ.เผยครึ่งปี ประกันชีวิต 25 บริษัทวางเงินสำรอง 235,225 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 16.23% เกือบ 80% หรือ 183,409 ล้านบาทเป็นพันธบัตรรัฐบาลไทย รองลงมาคือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจสัดส่วนเกือบ 17% หรือ 43,974 ล้านบาท ย้ำทรัพย์สินที่วางเป็นเงินสำรองต้องมีความมั่นคงสูง เสี่ยงต่ำเพื่อชำระหนี้ให้กับผู้เอาประกันภัย เป็นหลักประกันความมั่นคง เพิ่มความเชื่อ มั่นต่อธุรกิจ
เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2554 บริษัท ประกันชีวิตทั้งหมด 25 บริษัทได้นำทรัพย์สินมาวางไว้กับสำนักงาน คปภ. เป็นเงินสำรองประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ยังมีความผูกพันอยู่ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 235,225.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 16.23% ประกอบด้วย
1. พันธบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 183,409.57 ล้านบาท คิดเป็น 77.97% ของทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
2. พันธบัตรรัฐวิสาหกิจจำนวน 43,974.86 ล้านบาท คิดเป็น 18.69% ของทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
3. หุ้นกู้รัฐวิสาหกิจ จำนวน 3,713.67 ล้านบาท คิดเป็น 1.58 ของทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
4. หุ้นกู้บริษัทจำกัดจำนวน 2,627.34 ล้านบาท คิดเป็น 1.12% ของทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
5. เงินฝากธนาคารจำนวน 800 ล้านบาท คิดเป็น 0.34% ของทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
6. ตั๋วแลกเงิน จำนวน 700 ล้านบาท คิดเป็น 0.30% ของทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
ทั้งนี้ บริษัทประกันชีวิตจะต้องจัดสรรเบี้ยประกันภัยไว้เป็นเงินสำรองประกันภัย เพื่อจ่ายคืนให้แก่ผู้เอาประกันชีวิตหรือผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยที่ได้ระบุไว้ เช่น เมื่อครบกำหนดสัญญากรณีเสียชีวิตหรือการเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต เป็นต้น
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า กฎหมายกำหนดให้บริษัทประกันชีวิตนำเงินสำรองประกันภัยมาวางไว้กับสำนักงานคปภ. เป็นมูลค่าไม่เกิน 25% ของเงินสำรองประกันภัยทั้งสิ้น ประกอบกับพระราชบัญญัติประกันชีวิต กำหนดให้เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย มีบุริมสิทธิพิเศษเหนือเงินสำรองประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต สำนักงานคปภ. จึงกำหนดให้ทรัพย์สินที่นำมาวางไว้เป็นเงินสำรองประกันภัย เป็นทรัพย์สินที่มีความมั่นคงสูงและมีความเสี่ยงต่ำ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นต่อธุรกิจประกันชีวิต และเป็นหลักประกันความมั่นคงสำหรับผู้ทำประกันภัยต่อไป
ที่มา : สยามธุรกิจ